9 สถานที่เที่ยวและที่พักแนะนำใกล้ HITACHI SEASIDE PARK เที่ยวสนุกไปพร้อมกันได้

อื่น ๆ

ประวัติศาสตร์

ธรรมชาติ

9 สถานที่เที่ยวและที่พักแนะนำใกล้  HITACHI SEASIDE PARK เที่ยวสนุกไปพร้อมกันได้

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (HITACHI SEASIDE PARK) ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันจากความงดงามของดอกเนโมฟีลา (ดอกเบบีบลูอายส์) และทุ่งโคเชีย ในบริเวณใกล้เคียงยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น ชอปปิงมอลล์ สถานที่ตั้งแคมป์ และศาลเจ้าสวยๆ ให้ถ่ายรูปไปอวดกัน รวมทั้งที่พักและโรงแรมด้วย ครั้งนี้จะพาไปรู้จัก 9 ที่เที่ยวแนะนำในละแวกใกล้เคียง

ละแวก HITACHI SEASIDE PARK ขุมสมบัติของสถานที่ท่องเที่ยว

HITACHI SEASIDE PARK ในจังหวัดอิบารากิมีชื่อโด่งดังไกลถึงต่างประเทศในเรื่องความงามของดอกเนโมฟีลาในฤดูใบไม้ผลิ และทุ่งโคเชียในฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วง

บริเวณโดยรอบมีสถานที่มากมายให้เที่ยวชมและชอปปิง รวมถึงอาคารที่พักต่างๆ อย่างเรียวกัง ดังนั้น การมาเที่ยวที่นี่แค่ไปเช้าเย็นกลับจึงน่าเสียดายไปสักหน่อย

บทความนี้ขอนำเสนอ 9 ที่เที่ยวและที่พักแนะนำในละแวก HITACHI SEASIDE PARK ซึ่งทั้งหมดสามารถขับรถจากที่นี่ไปแค่ราว 20 นาทีเท่านั้น เหมาะกับการมาพัก 1 – 2 คืน เพื่อดื่มด่ำเสน่ห์ของละแวกนี้อย่างเต็มอิ่มกัน

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด: IBARAKI GUIDE

ข้อมูล

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์คเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 190 เฮกตาร์ ภายในสวนมีทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลหลากหลายสายพันธุ์ที่ออกดอกหมุนเวียนให้ชมตลอดปี ในฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมทุ่งดอกนาร์ซิสซัส และดอกทิวลิป เมื่อถึงช่วงต้นฤดูร้อนจะมีทุ่งดอกเนโมฟีลา (เบบีบลูอายส์) และดอกกุหลาบ ส่วนดอกบานชื่นจะบานในช่วงกลางฤดูร้อน เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมทุ่งดอกโคเชียและทุ่งดอกคอสมอส
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางปั่นจักรยานที่นักท่องเที่ยวสามารถปั่นชมภายในสวน รวมถึงโซนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น สวนสนุก สนาม BMX วิบาก สนามกีฬา และสถานที่ทำบาร์บีคิว

ดูบทความเพิ่ม

1. ร้านคุโรซาวะโชยุ (Kurosawa Soy Sauce) ทัวร์โรงหมัก อิ่มอร่อยกับคาเฟ่ (ขับรถไปราว 8 นาที)

黒澤醤油店

Kurosawa Soy Sauce เปิดกิจการเมื่อปี 1905 ผลิตโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) แบบดั้งเดิมที่หมักด้วยวิธีแบบธรรมชาติ โดยใช้ยีสต์และแลคโตบาซิลลัสที่เติบโตเฉพาะในโรงหมัก ทักษะและประสบการณ์ของช่างฝีมือ และถังไม้เก่าแก่ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

สามารถทัวร์ชมโรงหมักโชยุได้ (ต้องจองล่วงหน้า) เพื่อเรียนรู้กรรมวิธีเบื้องหลังความอร่อยดั้งเดิมในการทำโชยุ เช่น ถังไม้เก่าแก่ที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี และกระบวนการหมัก

Picture courtesy of Kurosawa Soy Sauce

Kurosawa Soy Sauce ผลิตโชยุและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลายเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน

นอกจากโค่ยคุจิโนะโชยุ (โชยุรสเข้มข้น) และโชยุไซชิโคมิโชยุ (โชยุที่หมัก 2 รอบโดยใช้โชยุแทนน้ำเกลือหมักอีกครั้ง) ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โชยุสำหรับรับประทานกับไข่สด, เมนทสึยุ (ทสึยุหรือน้ำซุปเข้มข้นที่ใช้รับประทานกับเมนูประเภทเส้นอย่างอุด้งและโซบะ) น้ำดองผัก (ที่ใช้ทำผักดองญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน) ซอสพอนสึ ซอสยากินิคุ มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) แบบโฮมเมด อามาซาเกะ (สาเกหวาน) ที่ทำจากเชื้อหมักโคจิ (อามาซาเกะแบบนี้จึงไม่มีแอลกอฮอล์ผสม เด็กๆ ก็สามารถดื่มได้) และอื่นๆ ทั้งหมดนี้วางจำหน่ายที่ร้านภายในโกดังของที่นี่

นอกจากนี้ ที่ Niemon KURA CAFE คาเฟ่โกดังที่อยู่ติดกับร้านจำหน่ายสินค้า ยังมีของหวานต่างๆ ที่ทำจากโชยุด้วย เช่น ซอฟท์ครีมโชยุกับอามาซาเกะ พุดดิ้งโชยุ ไอศกรีมโชยุ และเค้กชิฟฟ่อนโชยุโคจิ จำหน่ายด้วย รวมทั้งยังมืเมนูมื้อกลางวันสุดฮิตที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักมารังสรรค์อาหารจานอร่อยด้วย (ต้องจองล่วงหน้า)

นอกจากนี้ ยังมีของหวานและโชยุขวดเล็ก ที่เหมาะซื้อไปเป็นของฝากมากๆ ด้วย

2. ศาลเจ้าโฮชิอิโมะ (Hoshi-imo Shrine) เสาโทริอิสีทองมีเอกลักษณ์ (ขับรถไปราว 10 นาที)

ในบริเวณศาลเจ้าโฮริเดะ (Horide Shrine) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 มีศาลเจ้าโฮชิอิโมะซึ่งสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 2019 ศาลเจ้ามีเอกลักษณ์แห่งนี้ มีเสาโทริอิสีทองโดดเด่นซึ่งออกแบบโดยซาโต้ ทาคุ นักออกแบบกราฟิกชื่อดัง

ชื่อของศาลเจ้าโฮชิอิโมะ มาจากคำว่า โฮชิอิโมะ (มันเทศตากแห้ง) ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดอิบารากิ โฮชิอิโมะนั้นออกเสียงคล้ายกับคำภาษาญี่ปุ่น โฮชิอิโมโน ซึ่งแปลว่า “สิ่งที่ปรารถนา” ดังนั้น ผู้คนจึงนิยมมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อขอพรให้ “ได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนา

ภายในบริเวณศาลเจ้าที่มองเห็นทะเลแห่งนี้ นอกจากจะมีเสาโทริอิที่โดดเด่น ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น “จักรยานยนต์โฮชิอิโมะ” สีทอง และต้นไม้คู่ชาย-หญิงที่เรียกกันว่า ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หยินหยาง

อย่าลืมไปถ่ายรูปที่ศาลเจ้าโฮชิอิโมะสีทองเป็นที่ระลึกกันนะ

3. อาจิกาอุระ ออนเซ็น โนโซมิ (Ajigaura Onsen NOZOMI) ออนเซ็นติดทะเล (ขับรถไปราว 10 นาที)

Ajigaura Onsen NOZOMI เป็นออนเซ็นรีสอร์ตติดชายหาดอาจิกาอุระ (Ajigaura Beach)

เป็นน้ำพุร้อนที่ขุดได้จากชั้นหินโบราณที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1,504 เมตร มีสารประกอบในน้ำพุร้อนราว 26 เท่าของค่ามาตรฐานน้ำพุร้อน เป็นที่นิยมในฐานะบ่อน้ำพุร้อนสุดหรูที่ทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นและช่วยในการล้างพิษด้วย

เนื่องจากการแช่ออนเซ็นทำให้เหงื่อออกมาก ดังนั้น อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอทั้งก่อนและหลังแช่ออนเซ็นนะ

ออนเซ็นที่นี่มีบ่อออนเซ็น 7 ประเภทด้วยกัน เช่น “บ่อออนเซ็นโขดหินชมวิว” ซึ่งมีสัตว์เทวะจตุรทิศ (เทพฮวงจุ้ย) สลักบนหินคอยคุ้มครอง ขณะที่ดื่มด่ำกับความงามของมหาสมุทรแปซิฟิกและท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ และ “บ่อคุรามะเท็งงู” ซึ่งตั้งอยู่ภายในถ้ำที่ดูลึกลับและมีมนต์ขลัง

นอกจากนี้ยังมีบ่อออนเซ็นแบบส่วนตัวให้บริการสำหรับครอบครัวและคู่รัก ออนเซ็นแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับมาแวะพักผ่อนคลายเหนื่อยล้าหลังท่องเที่ยวที่ต่างๆ มาทั้งวัน หรือหลังสนุกกับการว่ายน้ำที่หาดอาจิกาอุระ

คลิกที่นี่เพื่อซื้อE-Tickets

4. ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิ (Sakatsura Isosaki Shrine) ที่เที่ยวซึ่งยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก และทางเดินเข้าศาลเจ้าที่งดงามและทรงเสน่ห์ยิ่ง (ขับรถไปราว 10 นาที)

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิสร้างเมื่อปี 856 เป็นศาลเจ้าพี่น้องที่สร้างขึ้นพร้อมกับศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) ในจังหวัดอิบารากิ (โด่งดังจากทิวทัศน์อันงดงามของเสาโทริอิบนโขดหินที่ยื่นออกไปในทะเล) ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าที่อธิษฐานขอพรให้หายป่วยและอายุยืนยาว

จุดเด่นที่สุดอีกอย่างของที่นี่ คือหมู่แมกไม้อันงดงามที่ขึ้นหนาทึบตลอดสองข้างยาว 300 เมตรตรงทางเข้าจากเสาโทริอิ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดอิบารากิด้วย

นอกจากนี้ยังมีต้นทาบุโนกิอายุกว่า 300 ปี และดอกคามิเลียสีแดงสดบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ

กิ่งก้าน ใบ และรากของต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่นเป็นอุโมงค์ให้บรรยากาศลึกลับราวกับว่าหลงเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง สุดทางจะมีเสาโทริอิที่มองเห็นวิวทะเลด้วย ช่วงเดือนมิถุนายนยังมีดอกไฮเดรนเยียอันงดงามให้ชื่นชมกันด้วย

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิเป็นที่เที่ยวแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและความงามแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

5. หาดอาจิกาอุระ (Ajigaura Beach) ที่เที่ยวชาร์ตพลังในช่วงฤดูร้อน (ขับรถไปราว 8 นาที)

หาดอาจิกาอุระเป็นชายหาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอิบารากิ ยาว 1.2 กิโลเมตร เนื่องจากมีทิวทัศน์งดงามคล้ายกับเมืองนาโปลิ (Napoli) ในอิตาลี จึงได้รับการขนานนามว่า นาโปลีแห่งซีกโลกตะวันออก

นอกจากนี้ยังเป็นที่เที่ยวที่เหมาะกับการมาปลดปล่อยความรู้สึกท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งบนชายหาด หลังไปสัมผัสธรรมชาติของพืชพรรณต่างๆ ที่ HITACHI SEASIDE PARK โดยเฉพาะในฤดูร้อน จะมีคาเฟ่ริมหาดให้นั่งด้วย

บริเวณหาดอาจิกาอุระแห่งนี้ยังใช้เวลาเดินเพียง 3 – 5 นาทีจากศาลเจ้าโฮชิอิโมะและอาจิกาอุระออนเซ็นโนโซมิที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ด้วย ดังนั้น จึงเหมาะมาเที่ยวทั้งหมดไปพร้อมกันเลย

ที่สำคัญใกล้ๆ กันยังมี Coco Hawaii สถานที่ตั้งแคมป์สุดฮิตที่มีสระว่ายน้ำด้วย เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เวลาช่วงเย็นๆ พักผ่อนสบายๆ กัน

ข้อมูล

หาดอาจิการะ (Ajigaura Beach)

หาดอาจิการะ (Ajigaura Beach)

หาดอาจิการะเป็น 1 ในชายหาดยอดนิยมในอิบารากิ มีหาดทรายยาวกว่า 1.5 กม. มีการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งทางรถไฟและรถยนต์ อยู่ไม่ไกลออกจากฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) และ Shopping Mall ยอดนิยม

ดูบทความเพิ่ม

6. FASHION CRUISE NEWPORT HITACHINAKA (แฟชั่น ครูซ นิวพอร์ต ฮิตาจินากะ) ชอปสนุกถึงดึกๆ ได้ (ขับรถไปราว 2 นาที)

FASHION CRUISE NEWPORT HITACHINAKA ชอปปิงมอลล์ที่มีร้านค้าต่างๆ ราว 100 ร้าน ตั้งอยู่ด้านนอก HITACHI SEASIDE PARK ติดกับประตูทิศตะวันตก

พื้นที่ชอปปิงเปิดให้บริการถึง 20:00 น. ส่วนศูนย์อาหารเปิดให้บริการถึง 21:00 น. หลังจากเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เสร็จก็แวะมาจับจ่ายชื้อสินค้าต่างๆ หรือของฝากได้

ภายในมีร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ร้านดังๆ ที่มีสาขาในต่างประเทศอย่างร้าน 100 เยนสุดฮิตที่หาซื้อของฝากต่างๆ ได้, MUJI ที่มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าบริโภค, Uniqlo ที่มีเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก, VILLAGE VANGUARD ร้านหนังสือและสินค้าเบ็ดเตล็ดซึ่งมีสินค้าน่าสนใจมากมาย, ABC-MART ร้านรองเท้าชื่อดัง รวมทั้งร้านดังๆ ที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดี ตลอดจนร้านค้าท้องถิ่น สามารถจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าแฟชั่น สินค้าเบ็ดเตล็ด และอื่นๆ กันได้เต็มที่ในราคาย่อมเยา

ยังมีศูนย์อาหาร ร้านซูชิสายพาน และร้านทงคัตสึ (หมูชุปแป้งทอดญี่ปุ่น) ให้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างง่ายๆ สบายๆ ด้วย (*)

* ร้านค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ณ ขณะนั้น

7. ฮามาดะคัง (Hamada Kan) ที่พักซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทะเลได้ทั้งหมด (ขับรถไปราว 8 นาที)

Hamada Kan เรียวกังเก่าแก่ติดหาดอาจิกาอุระ เปิดให้บริการเมื่อปี 1925

แม้เรียวกังจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 แต่ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ในปี 2014 ให้เป็นเรียวกังแสนสบายเหมือนพักอยู่ที่บ้าน แต่สามารถเพลิดเพลินทิวทัศน์อันงดงามของทะเลแบบส่วนตัว

浜田館

Hamada Kan มีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง โดยแบ่งเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก 5 ห้อง และห้องสไตล์ญี่ปุ่น 2 ห้อง

แต่ละห้องมีคอนเซ็ปต์ต่างกัน เช่น ห้องโอโตะหรือห้องเสียง (Oto) ซึ่งมีอ่างอาบน้ำในร่มชมทิวทัศน์มหาสมุทรและฟังเสียงกระซิบของเกลียวคลื่น ห้องโซระหรือท้องฟ้า (Sora) ซึ่งมีระเบียงชมทิวทัศน์ท้องฟ้ากับทะเลสีครามสวย และห้องสึกิหรือห้องดวงจันทร์ (Tsuki) ห้องสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตกซึ่งมีหน้าต่างบานใหญ่ไว้ชมชายหาดและดวงจันทร์สวยๆ

แต่ละห้องมีบรรยากาศและวิวที่ต่างกัน ดังนั้น หลายคนจึงแวะเวียนมาพักบ่อยๆ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปในแต่ละห้อง (*)

ความสุขอีกอย่างหนึ่งของการพักที่เรียวกังแห่งนี้ คือการได้รับประทานอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผัก ซึ่งเป็นผลิตผลของจังหวัดอิบารากิ เจ้าของเรียวกังจะไปคัดสรรปลาตามฤดูกาลมาปรุงอาหารสุดแสนอร่อยในแต่ละวันเอง ซุปทะเลที่ใช้ปูฮิราทสึเมะก็เป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีลาเต้อาร์ตที่เจ้าของเรียวกังรังสรรค์อย่างประณีต คือบริการสุดพิเศษหลังอาหารเช้าของ Hamada Kan

* บางห้องไม่เห็นวิวทะเล

8. โคตง ฮิตาจินากะ แกลมวิลล่า (COTON hitachinaka glamp villa) สำหรับผู้ชื่นชอบแกลมปิ้ง (ขับรถไปราว 5 นาที)

COTON hitachinaka glamp villa เป็นหนึ่งในแกลมปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต เปิดให้บริการเมื่อปี 2021

ตั้งอยู่ในทำเลดี เดินทางมาง่ายมากๆ ขับรถจาก FASHION CRUISE NEWPORT HITACHINAKA มาเพียง 2 นาที และขับรถจาก HITACHI SEASIDE PARK มาเพียง 6 นาที

มีเต็นท์ทั้งหมด 18 หลังในบรรยากาศส่วนตัว

มีโดมแกลมปิ้ง 3 ประเภท ได้แก่ SINGLE DOME โดมเดี่ยวแบบมาตรฐาน TWIN DOME โดมแฝดที่เชื่อมโดมเดี่ยวต่อกัน และ COCOON TENT เต็นท์รังไหมที่กว้างขวาง

All tents are furnished with a private toilet and shower. Guests can spend the night comfortably with the soothingly toned furniture selected by an interior coordinator.

COTON hitachinaka glamp villa ยังมีห้องจัดงานแต่งงานซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับเมนูบาร์บีคิวที่ปรุงโดยเชฟชาวฝรั่งเศสและอดีตหัวหน้าเชฟจากคาเฟ่สไตล์เอธนิคสุดฮิตในโตเกียว

อาหารเช้ามีทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ตะวันตกให้เลือก รวมทั้งเมนูสำหรับเด็กด้วย ดังนั้นจึงสะดวกกับผู้มาพักเป็นครอบครัวเช่นกัน

9. โรงแรมคริสตัล พาเลซ (HOTEL CRYSTAL PALACE) เหมาะเป็นฐานที่พักเพื่อการตระเวนเที่ยว (ขับรถไปราว 15 นาที)

HOTEL CRYSTAL PALACE ตั้งอยู่ในทำเลดีมากๆ จะเดินทางจาก HITACHI SEASIDE PARK, อควาเวิลด์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโออาไรประจำจังหวัดอิบารากิ (AQUAWORLD Ibaraki Prefectural Oarai Aquarium) หรือตลาดปลานาคามินาโตะ (Nakaminato Fish Market) ที่อยู่ละแวกใกล้ๆ ก็สะดวก

ภายในบริเวณโรงแรมแห่งนี้มีโบสถ์แต่งงาน น้ำตกขนาดใหญ่ และสวนสไตล์อังกฤษ

ตัวอาคารโรงแรมยังมีล็อบบี้ขนาดใหญ่ เลานจ์ รวมทั้งห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก สามารถใช้จัดงานตั้งแต่กลุ่มเล็กไปจนถึงกลุ่มใหญ่ ที่จอดรถก็กว้างขวาง สามารถจอดรถยนต์ขนาดมาตรฐานได้ 500 คัน และรถบัสขนาดใหญ่ 8 คัน นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ด้วย

ホテルクリスタルパレス

Picture courtesy of HOTEL CRYSTAL PALACE

มีทั้งห้องพักสไตล์ตะวันตกแบบ Single Room, Semi-Double Room, Double Room, Twin Room, Semi-Suite Room Suite Room และห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นแบบถอดรองเท้าเพื่อผ่อนคลายเท้าได้ รวมถึงห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเตียงนอนด้วย

ภัตตาคารของโรงแรมที่มองเห็นวิวโบสถ์ มีเมนูที่ได้รับการกล่าวขวัญคือแกงกระหรี่ญี่ปุ่นสูตรพิเศษของโรงแรม และอาหารเช้าเพื่อสุขภาพซึ่งจะได้ลิ้มรสผักสดๆ จากฟาร์ม นอกจากนี้ ยังมี Maimon ภัตตาคารญี่ปุ่นสไตล์ห้องส่วนตัวซึ่งสามารถสัมผัสความงดงามของญี่ปุ่นดั้งเดิม มีเมนูอาหารเทปันยากิต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารญี่ปุ่นอย่างเนื้อวัวฮิตาจิวากิว (Hitachi Wagyu Beef) ที่ขึ้นชื่อของอิบารากิ และอาหารทะเล

อิบารากิยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย!

ถ้าเดินทางออกไปอีกหน่อย ในจังหวัดอิบารากิยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย

อย่างเมืองโออาไร (Oarai) ที่ขับรถไปอีกราว 30 นาทีก็มีที่เที่ยวอีกเยอะเลย เช่น ศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ (Oarai Isosaki Shrine) หาดโออาไรซันบีช (Oarai Sun Beach) และตลาดอาหารทะเลโออาไร (Oarai Kaisen Ichiba)

ถ้าขับรถไปทางเมืองมิโตะ (Mito) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองโออาไร ก็จะมีสวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) 1 ใน “3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” และโคโดคัง (Kodokan Mito Han School) ซึ่งสามารถสัมผัสวัฒนธรรมซามูไรได้

นอกจากนี้ถ้าขับรถไปอีก 40 นาที ก็จะเป็นเมืองคาซามะ (Kasama) ซึ่งโด่งดังในฐานะเมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผา และมีที่เที่ยวมากมายเกี่ยวกับคาซามะยากิ (เครื่องปั้นดินเผาคาซามะ) เครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นด้วย

ลองแวะไปพักละแวก HITACHI SEASIDE PARK และดื่มด่ำกับเสน่ห์ของจังหวัดอิบารากิให้จุใจกัน

สามารถอ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่ด้านล่าง