5 ที่พักแนะนำในอิบารากิ มีทั้งบ้านสไตล์โบราณไปจนถึงรีสอร์ตลับ

อาหาร

ธรรมชาติ

กิจกรรม

5 ที่พักแนะนำในอิบารากิ มีทั้งบ้านสไตล์โบราณไปจนถึงรีสอร์ตลับ

จังหวัดอิบารากิเต็มไปด้วยธรรมชาติมากมายทั้งทะเล ภูเขา และแม่น้ำ มีที่พักหลากหลาย เช่น บ้านพักโบราณสไตล์ญี่ปุ่นและวิลล่าหรูหราริมทะเล บทความนี้จะพาไปรู้จัก 5 ที่พักแนะนำ

จังหวัดอิบารากิมีที่พักที่มีเอกลักษณ์พิเศษมากมาย

ความสุขอย่างหนึ่งในการท่องเที่ยวก็คือการได้พักที่พักแบบไหน โรงแรมธุรกิจราคาถูกก็ดี แต่ถ้าได้พักที่พักที่มีอะไรพิเศษสักหน่อย ก็ยิ่งสร้างความทรงจำในการเดินทางให้พิเศษขึ้น

จังหวัดอิบารากิอยู่ใกล้โตเกียว มีที่พักหลากหลายที่มีเอกลักษณ์ ตั้งแต่บ้านพักโบราณที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสวย ที่พักซึ่งรีโนเวทจากบ้านญี่ปุ่นโบราณ ไปจนถึงโรงแรมรีสอร์ตสุดหรูริมทะเลที่สามารถเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำได้ บทความนี้จะช่วยให้คุณค้นพบที่พักที่ชื่นชอบได้

1. เกสต์เฮาส์ โคมินคา เอกุจิยะ (Guest House KOMINKA EGUCHIYA)

Guest House KOMINKA EGUCHIYA บ้านโบราณริมทะเลสาบ ซึ่งสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ในบรรยากาศเงียบสงบ

Guest House KOMINKA EGUCHIYA เดิมเป็นบ้านโบราณชั้นเดียวที่สร้างขึ้นปี 1900 เพื่อใช้เป็นโรงกลั่นเหล้าสาเก แต่ปัจจุบันดัดแปลงให้เป็นเกสต์เฮาส์โดยยังคงกลิ่นอายของอาคารดั้งเดิมไว้ มีการปรับปรุงทั้งตัวอาคารและทางเข้ารวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้กลมกลืนกับทิวทัศน์ภายนอก

Guest House KOMINKA EGUCHIYA ใส่ใจเป็นพิเศษกับอาหารและกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่แขกจะได้รับ อาหารของที่นี่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ เช่น ข้าวที่หุงด้วยคามาโดะ (เตาถ่านญี่ปุ่น) กับฟืนในสไตล์โบราณ ปลาวาคาซากิและปลาชิราอุโอที่จับมาจากคาซุมิกาอุระ มีกิจกรรมเสริมต่างๆ เช่น การทำพิซซ่าและไส้กรอกในพื้นที่บาร์บีคิวด้วยเตาอบกลางแจ้ง การจุดกองไฟ การตัดฟืน การเก็บผักและหน่อไม้ญี่ปุ่น

Guest House KOMINKA EGUCHIYA อยู่ห่างจากคาซุมิกาอุระ (Lake Kasumigaura) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นแค่ 100 เมตร ระหว่างการเข้าพักสามารถไปเดินเล่นและขี่จักรยานเลียบทะเลสาบพร้อมชมทิวทัศน์อันงดงามตระการตา มีจักรยานให้ยืมฟรีด้วย แนะนำให้ปั่นไปรอบๆ Tsukuba Kasumigaura Ring Ring Road เส้นทางปั่นจักรยานแห่งชาติกัน

ข้อมูล

เกสต์เฮาส์ โคมินคา เอกุจิยะ (Guest House KOMINKA EGUCHIYA)

เกสต์เฮาส์ โคมินคา เอกุจิยะ (Guest House KOMINKA EGUCHIYA)

Guest House KOMINKA EGUCHIYA ปรับปรุงจากอาคารโบราณอายุกว่า 150 ปี ตั้งอยู่บนชายฝั่งของคาซึมิกาอุระ (Kasumigaura) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น อาคารเดิมเป็นโรงกลั่นเหล้าสาเก ดัดแปลงให้เป็นเกสต์เฮาส์โดยยังคงกลิ่นอายของอาคารดั้งเดิมไว้ มีกลิ่นหอมของไม้ซึ่งเป็นโครงสร้างของอาคาร
มาสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ใช้เวลาในบรรยากาศเงียบสงบ ชมวิวริมทะเลสาบและทิวทัศน์แบบดั้งเดิม ลิ้มรสอาหารสูตรเฉพาะของ EGUCHIYA จากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ข้าวหุงด้วยหม้อญี่ปุ่นแบบโบราณ ปลาวาคาซากิ ปลาชิราอุโอ ที่จับมาจากคาซุมิกาอุระ
นอกจากกิจกรรมการผ่าฟืนสำหรับแขกผู้เข้าพัก (ฟรี) ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ เช่น การทำพิซซ่าโดยใช้เตาอบหิน การทำไส้กรอก บาร์บีคิว (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับ Tsukuba Kasumigaura Ring Ring Road เส้นทางปั่นจักรยานแห่งชาติ ที่แนะนำให้ต้องลองไปปั่นจักรยานเที่ยว

ดูบทความเพิ่ม

2. โคคัสฮาร์เบอร์ (Hikyo no Rakuen COCOS HARBOR)

COCOS HARBOR อยู่ในเมืองโฮโกตะ (Hokota) บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก วิลล่าซึ่งจำกัดการพักกลุ่มเดียวต่อคืน ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นทะเล

ด้านนอกมีห้องซาวน่า สระว่ายน้ำขนาดเล็ก พื้นที่จัดปาร์ตี้กลางแจ้ง และศาลากลางสวนพร้อมเตาอบพิซซ่า ภายในอาคารมีห้องนั่งเล่นเอนกประสงค์ขนาด 200 ตร.ม. ที่สามารถเล่นบิลเลียดและร้องคาราโอเกะได้ เหมาะที่จะเปิดเพลงเสียงดังหรือจัดปาร์ตี้สนุกๆ ได้เต็มที่ ! เนื่องจากพื้นที่ล้อมรอบด้วยฟาร์ม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงจะไปรบกวนพื้นที่รอบข้าง

จากที่พักสามารถขับรถไปชายหาดที่ใกล้ที่สุดได้ไม่เกิน 10 นาที นอกจากนี้ ยังมีห้องนอน 3 ห้องที่มองเห็นวิวทะเลได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมพลังความสดชื่นและดื่มด่ำไปกับความงดงามของทะเล

เมืองโฮโกตะที่ COCOS HARBOR ตั้งอยู่นี้เป็นแหล่งปลูกเมลอนอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนตุลาคม นอกจากจะมีเมลอนพันธุ์ต่างๆ วางขายในสถานที่จำหน่ายต่างๆ ในเมืองแล้ว ยังมีฟาร์มท่องเที่ยวที่จัดกิจกรรมเก็บเมลอนกันสดๆ ด้วย เมลอนยังเหมาะซื้อไปเป็นของฝากด้วยนะ

นอกจากนี้ COCOS HARBOR ยังตั้งอยู่ใกล้เมืองโออาไร (Oarai) พื้นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดอิบารากิ สามารถเดินทางไปเที่ยวได้สบายๆ อย่างศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ (Oarai Isosaki shrine) และอควาเวิลด์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโออาไรประจำจังหวัดอิบารากิ (AQUAWORLD Ibaraki Prefectural Oarai Aquarium)

3. อิโซยามาไท เกสต์เฮาส์ (Isoyamatei Guesthouse)

เมืองอิตาโกะ (Itako) ตั้งอยู่ทางใต้ของจังหวัดอิบารากิ เคยรุ่งเรืองในฐานะเมืองแห่งการขนส่งทางน้ำในสมัยเอโดะ (ปี 1603-1868)

Isoyamatei Guesthouse เป็นหนึ่งในอาคารที่คงบรรยากาศเก่าๆ ในยุคนั้นไว้ บ้านโบราณชั้นเดียวที่สร้างขึ้นในปี 1899 ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นที่พักซึ่งจำกัดการพักกลุ่มเดียวต่อวันในปัจจุบัน

สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่ใช้ไม้เก่ามีเสน่ห์ ให้บรรยากาศที่รู้สึกสงบ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การปรับปรุงอาคารมีความพยายามอย่างมากในการอนุรักษ์อาคารเก่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ Isoyamatei Guesthouse ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถันนี้ มีความงดงาม แข็งแรง และพักได้อย่างสบายใจ

ที่นี่มีสวนญี่ปุ่น และสนามหลังบ้านที่มีพื้นที่ปิกนิกพร้อมชุดบาร์บีคิว นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารกลางวันแบบกล่องและชุดบาร์บีคิวซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หลากหลายของอิตาโกะให้เลือกด้วย

ที่นี่มีสวนญี่ปุ่น และสนามหลังบ้านที่มีพื้นที่ปิกนิกพร้อมชุดบาร์บีคิว นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารกลางวันแบบกล่องและชุดบาร์บีคิวซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หลากหลายของอิตาโกะให้เลือกด้วย Isoyamatei Guesthouse ใช้เวลาเดินเพียง 7 นาทีจากสถานีอิตาโกะ (Itako) จริงๆ แล้วในเดือนมิถุนายนของทุกปี สวนอิตาโกะอายาเมะหรือสวนดอกไอริส (SUIGO ITAKO AYAME-EN หรือ Suigo Itako Iris Garden) ที่อยู่ใกล้สถานีอิตาโกะจะจัดงานเทศกาลอิตาโกะอายาเมะหรือเทศกาลดอกไอริส (Suigo Itako Iris Festival) งานเทศกาลที่สำคัญของท้องถิ่น ซึ่งจะได้ชมประเพณีเก่าแก่ในท้องถิ่นอย่างประเพณีเรือส่งตัวเจ้าสาว ซึ่งเจ้าสาวจะนั่งเรือไปหาเจ้าบ่าวที่รออยู่ ถ้ามาเที่ยวอิตาโกะในเดือนมิถุนายน ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง

ข้อมูล

อิโซยามาไท เกสต์เฮาส์ (Isoyamatei Guesthouse)

อิโซยามาไท เกสต์เฮาส์ (Isoyamatei Guesthouse)

Isoyamatei Guesthouse อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ใช้เวลาเดินทางเพียง 70 นาที โดยรถบัสทางด่วน ใช้เวลาเดินไปสวนสวนดอกไอริส (SUIGO ITAKO AYAME-EN หรือ Suigo Itako Iris Garden) และสถานี JR Itako เพียง 7 นาที
เป็นบ้านพักซึ่งปรับปรุงจากบ้านโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 120 ปี ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมของเมืองอิทาโกะ เช่น หน้าต่างไม้ขัดแตะ โคมไฟกระดาษ เฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ มีตู้เย็นและเครื่องครัวครบครันให้ปรุงอาหารโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นได้
ช่วงที่ไม่มีแขกมาพัก จะเปิดบริการคาเฟ่ ให้เพลิดเพลินกับอิตาโกะ (ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) พร้อมมัทฉะ (ชาเขียวญี่ปุ่น) ในบรรยากาศบ้านโบราณ

ดูบทความเพิ่ม

4. มุทัคโคะ (Sudio & Guesthouse MUTAKKO)

เมืองคาซามะ (Kasama) เป็นแหล่งผลิต “คาซามะยากิ” เครื่องปั้นดินเผาซึ่งเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านชื่อดัง Sudio & Guesthouse MUTAKKO อยู่ในย่านหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาซึ่งมีช่างปั้นดินเผาอาศัยอยู่จำนวนมาก

Sudio & Guesthouse MUTAKKO ที่พักซึ่งเจ้าของเป็นช่างปั้นดินเผา เป็นบ้านสวยบนเนินเขายามาซาโตะ (Mt. Yamazato) ผู้ที่มาพักครั้งแรกต่างพูดกันว่า เหมือนบ้านในโทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดฮิตเลย

Sudio & Guesthouse MUTAKKO ที่พักซึ่งเจ้าของเป็นช่างปั้นดินเผา เป็นบ้านสวยบนเนินเขายามาซาโตะ (Mt. Yamazato) ผู้ที่มาพักครั้งแรกต่างพูดกันว่า เหมือนบ้านในโทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดฮิตเลย ห้องพักอยู่บนชั้น 2 ติดกับสตูดิโอเครื่องปั้นดินเผา ห้องนั่งเล่นมีระเบียงชมวิวที่สวยงาม นอกจากห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีห้องนอนใต้หลังคาที่มีบรรยากาศเหมือนห้องลับ ทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและมีความสุขได้

ในสวนกว้าง มีทางเดิน พื้นที่บาร์บีคิว สระน้ำเล็กๆ สวนผัก และเฉลียงไม้ติดกับตัวบ้าน ภายในอาคารมีแกลลอรี่แสดงผลงานของเจ้าของ นอกจากนี้เมื่อแจ้งตอนจองล่วงหน้า ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำเครื่องปั้นดินเผาจากเจ้าของ หรือร่วมทำกิจกรรมเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรก็ได้นะ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)!

มาลองพักผ่อนใช้เวลาสบายๆ ท่ามกลางป่าไม้และงานหัตถกรรมกัน

 

ข้อมูล

มุทัคโคะ (Sudio & Guesthouse MUTAKKO)

มุทัคโคะ (Sudio & Guesthouse MUTAKKO)

Sudio & Guesthouse MUTAKKO ตั้งอยู่บนเนินเขายามาซาโตะ (Mt. Yamazato) ว่ากันว่า เหมือนบ้านในการ์ตูนเรื่อง My Neighbour Totoro มีห้องพักอยู่บนชั้น 2 ติดกับสตูดิโอเครื่องปั้นดินเผา ห้องนั่งเล่นมีระเบียงชมวิวที่สวยงามและห้องนอนใต้หลังคาเพื่อให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศห้องลับ (นอกจากนี้ยังมีห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น) รวมทั้งยังสามารถทดลองทำเครื่องปั้นดินเผากับเจ้าของที่พัก ซึ่งเป็นช่างปั้นคาซามะยากิ (กรุณาจองล่วงหน้า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) มาลองพักที่บ้านช่างทำเครื่องปั้นดินเผากัน

ดูบทความเพิ่ม

5. ฟาร์มสเตย์ อีมูระ (Farm Stay Iimura)

Farm Stay Iimura ที่พักซึ่งเป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณอายุกว่า 80 ปี

อาคารไม้ที่ชวนให้นึกถึงบ้านเกษตรกรญี่ปุ่นสมัยก่อนซึ่งปัจจุบันแทบไม่ค่อยเห็น มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแบบบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อนไว้มากมาย เป็นอีกแห่งที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสชีวิตประจำวันของเกษตรกรญี่ปุ่นในอดีต

ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านและผักในท้องถิ่น เช่น อาหารนี่งตามฤดูกาลด้วยซึ้งไม้ไผ่และเต้าหู้โฮมเมดที่ปรุงโดยเจ้าของ เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับเมนูสดใหม่ที่แตกต่างกันในทุกครั้งที่มาพัก !

Farm Stay Iimura จำกัดผู้เข้าพักหนึ่งกลุ่มต่อวัน ดังนั้นจึงสามารถพักผ่อนแบบส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ขอแนะนำให้นั่งจิบชาญี่ปุ่นบนเฉลียงที่อยู่ติดสวนกลางบ้าน ! ลองมาสัมผัสทิวทัศน์แบบชนบทและอาหารพื้นบ้านในแต่ละฤดูกาล ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพักผ่อนแบบเต็มที่กัน

ข้อมูล

ฟาร์มสเตย์ อีมูระ (Farm Stay Iimura)

ฟาร์มสเตย์ อีมูระ (Farm Stay Iimura)

Farm Stay Iimura เป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณที่มีอายุกว่า 80 ปี ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติแบบส่วนตัว เนื่องจากจำกัดการรับแขกครั้งละกลุ่มเท่านั้น
สัมผัสวิถีชิวิตประจำวันของญี่ปุ่นเหมือนกับละคร ในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยดอกไม้และแสงตะวันในฤดูใบไม้ผลิ นอนดูดาวสุกสว่างเต็มท้องฟ้าในฤดูร้อน สัมผัสสายลมเย็นอ่อนๆ พร้อมรวงข้าวที่กำลังออกรวงในฤดูใบไม้ร่วง หรือจะนั่งจิบชาเขียวที่เฉลียงบ้านในฤดูหนาว
ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านจากผักในท้องถิ่น และปรุงโดยเจ้าของ เช่น อาหารนี่งตามฤดูกาลด้วยซึ่งไม้ไผ่ เต้าหู้โฮมเมด (ตัวอย่างภาพคืออาหารเรียกน้ำย่อย) ลืมชีวิตประจำวันที่วุ่นวายแล้ว มาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์และอาหารชนบทตามฤดูกาล ผ่อนคลาย และพักใจแบบสโลว์ไลฟ์ที่ Farm Stay Iimura
สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม: สวมชุดยูกาตะ + เล่นดอกไม้ไฟ (ไฟเย็น) (กรุณาสอบถามล่วงหน้า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและขึ้นอยู่กับฤดูกาล)

ดูบทความเพิ่ม