ไปสนุกกับการปีนเขาใกล้โตเกียวกัน! จุดเด่นของเขาทสึคุบะ รวมทั้งที่เที่ยว ออนเซ็นเรียวกัง และอื่นๆ

ไปสนุกกับการปีนเขาใกล้โตเกียวกัน! จุดเด่นของเขาทสึคุบะ รวมทั้งที่เที่ยว ออนเซ็นเรียวกัง และอื่นๆ

เขาทสึคุบะ เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ใกล้โตเกียวซึ่งเหมาะสุดๆ ในการไปสนุกกับการปีนเขา บทความนี้ขอแนะนำวิธีการเพลิดเพลินกับการปีนเขา ตลอดจนอีเวนท์ในแต่ละฤดูกาล จุดเด่นของศาลเจ้าทสึคุบะซัง ออนเซ็นเรียวกัง และอื่นๆ

เสน่ห์ของเขาทสึคุบะ แหล่งปีนเขาสุดฮิตใกล้โตเกียว

เขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba) เป็นภูเขาอันโด่งดังที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักปีนเขาชาวญี่ปุ่น เขาทสึคุบะสูง 877 เมตร ซึ่งปกติน่าจะไม่ผ่านมาตรฐานความสูง 1,500 เมตรในการได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียง ทว่าเนื่องด้วยตัวพื้นที่ภูเขาทั้งหมดเป็นโกะชินไต (ที่สถิตของเทพ) ของศาลเจ้าทสึคุบะซัง รวมทั้งตัวภูเขาอันงดงามที่ตั้งตะหง่านบนที่ราบคันโต ซึ่งได้รับการยกย่องโดยเปรียบเทียบกับภูเขาไฟฟูจิในแง่ความงามมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า “ฟูจิทางทิศตะวันตก ทสึคุบะทางทิศตะวันออก” นั่นเอง ทำให้ภูเขาแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นเป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้ เขาทสึคุบะยังมียอดเขาแฝด ได้แก่ ยอดเขาเนียวไต (ยอดเขาผู้หญิง สูง 877 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) และยอดเขานันไต (ยอดเขาผู้ชาย สูง 871 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) มีเส้นทางปีนเขาหลากหลายซึ่งทั้งนักปีนเขามือใหม่และนักปีนเขามือโปรต่างสามารถเพลิดเพลินกันได้ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งปีนเขาสุดฮิตใกล้โตเกียว ที่สำคัญอีกอย่างคือภูเขาทั้งลูกเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีท้องถิ่นเขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba Area Geopark) ซึ่งมีพืชและสัตว์นานาชนิด รวมถึงแมลง นกป่า และพืชพันธุ์หายากอาศัยอยู่

ภูเขาแห่งนี้ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณ หากมาเที่ยวชมที่นี่ จะได้พบโลกอันอุดมสมบูรณ์แห่งเทพนิยายญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นเรียวกังและที่พักบ้านญี่ปุ่นโบราณตั้งเรียงรายใกล้ๆ กับป้ายรถบัส Tsukubasan-Jinja Iriguji ตรงบริเวณทางเข้าศาลเจ้าทสึคุบะซัง หากต้องการใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ขอแนะนำให้มาพักที่นี่กัน

การเดินทางจากโตเกียวไปเขาทสึคุบะ

สามารถนั่งรถไฟสายทสึคุบะเอ็กซ์เพรส (Tsukuba Express Line) จากสถานีอากิฮาบาระ (Akihabara) ในโตเกียว (Tokyo) ไปเมืองทสึคุบะได้ในเวลาราว 45 นาที

และเดินทางไปเขาทสึคุบะได้โดยนั่งรถบัสจากท่ารถบัส Tsukuba Center Bus Terminal ที่อยู่ติดสถานีทสึคุบะ ใช้เวลาราว 36 นาที ไปลงป้ายรถบัส Tsukubasan-Jinja Iriguchi จากที่นี่สามารถไปที่สถานีมิยาวากิ (Miyawaki) จุดขึ้น Mt. Tsukuba Cable Car นั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยังยอดเขานันไต (Nantai peak) ได้

หรือจะนั่งโรปเวย์ขึ้นไปยังเขาเนียวไต (Nyotai peak) ก็ให้นั่งรถบัสจากท่ารถบัสไปลงป้าย Tsutsujigaoka ใช้เวลาราว 50 นาที สามารถเดินทางไปยอดเขาได้สะดวกมากๆ ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาทสึคุบะได้รับความนิยมจากผู้รักและชื่นชอบธรรมชาติ

ไฮไลต์และกิจกรรมพิเศษบนเขาทสึคุบะ

เขาทสึคุบะเป็นสถานที่มีเสน่ห์ซึ่งไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ และทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล มารู้จักไฮไลต์หลักๆ ของเขาทสึคุบะและกิจกรรมตามฤดูกาลที่ไม่ควรพลาดกัน

1. ศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine)

ว่ากันว่ายอดเขาแฝดของเขาทสึคุบะเป็นตัวแทนเทพเจ้าสามีภรรยาที่มีนามว่า อิซานากิ โนะ มิโกโตะ (เขานันไต) และอิซานามิ โนะ มิโกโตะ (เขาเนียวไต) ซึ่งเป็นเทพผู้ปกครองเหล่าทวยเทพซึ่งปรากฏอยู่ในเทพนิยายของญี่ปุ่น รวมทั้งในหมู่เกาะญี่ปุ่น

ศาลเจ้าทสึคุบะซังเป็นที่สักการะเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้ ตามบันทึกของศาลเจ้า เขาทสึคุบะเองก็เป็นสถานที่สักการะมาตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยได้รับการกราบไหว้บูชาในฐานะโกะชินไต (ที่สถิตของเทพ) ที่นี่ยังเป็นสถานที่ชื่อดังในการมาฮัตสึโม (การไปวัดหรือศาลเจ้าครั้งแรกในวันปีใหม่) และว่ากันว่าที่นี่จะให้พรเรื่องคู่ครองและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา

อาคาร สถาปัตยกรรม และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในบริเวณศาลเจ้าทสึคุบะซังเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมศาลเจ้าแบบดั้งเดิม ซึ่งส่วนใหญ่สร้างขึ้นเมื่อปี 1633 จากการทำบุญถวายของโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิตสึ (ปี 1604 – 1651)

ในสมัยนั้น มีการผสานความเชื่อของลัทธิชินโตกับพุทธศาสนาเข้าด้วยกัน โดยการผสานกันนี้สะท้อนให้เห็นในสถาปัตยกรรมต่างๆ อย่างประตูซุยจิน (Zuijinmon) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 1633 และได้รับการสร้างขึ้นใหม่ 2 ครั้งหลังถูกเพลิงไหม้นี้ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของวัด นอกจากศาลเจ้าไฮเด็น (ศาลเจ้าสักการะ) อันโอ่อ่าแล้ว ศาลเจ้าฮิเอะและศาลเจ้าคาซุกะภายในบริเวณยังตกแต่งด้วยงานแกะสลักไม้ที่งดงามอีกด้วย

โดยทั่วไป ผู้ที่มาเขาทสึคุบะต้องแวะมาสักการะที่ศาลเจ้าทสึคุบะซังก่อนจะมุ่งหน้าไปยังยอดเขาตามเส้นทางปีนภูเขาหรือขึ้นเคเบิลคาร์

นอกจากนี้ ด้านบนสุดของแต่ละยอดเขายังมีศาลเจ้าที่สักการะเทพเจ้าหลัก 2 องค์ คือ อิซานามิ โนะ มิโคโตะ (เขาเนียวไต) และอิซานากิ โนะ มิโคโตะ (เขานันไต) อาคาร สถาปัตยกรรม และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าทสึคุบะซังเช่นกัน

2. เทศกาลดอกบ๊วย (Plum Blossom Festival) ที่สวนบ๊วยเขาทสึคุบะ

ดอกบ๊วยซึ่งสื่อถึงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ได้กลายเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอิบารากิ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความงดงามของดอกบ๊วยที่สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) ในมิโตะ (Mito) นั่นเอง

สวนบ๊วยบนเขาทสึคุบะอยู่ใกล้กับป้ายรถบัส Tsukubasan-Jinja Iriguchi มีต้นบ๊วยราว 1,000 ต้น ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิดอกไม้บ๊วยสีแดงและสีขาวจะบานสะพรั่ง แต่งแต้มสีสันอันงดงามและส่งกลิ่นหอมละมุนไปทั่วบริเวณโดยรอบ

เทศกาลดอกบ๊วยจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมเป็นประจำทุกปี มีนักท่องเที่ยวมากันคับคั่งเพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามแห่งฤดูใบไม้ผลินี้กัน

3. ใบไม้เปลี่ยนสีและการประดับไฟไลต์อัพยามค่ำคืน

ช่วงเวลาที่นิยมมาเที่ยวเขาทสึคุบะมากที่สุดอีกช่วงก็คือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายน บริเวณรอบสถานีมิยาวากิของ Mt. Tsukuba Cable Car ที่ต้นเมเปิลปกคลุมหนาแน่นจะมีใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสันทั้งสีแดง สีเหลือง และสีส้ม สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สดใสได้ นอกจากนี้ใบแปะก๊วยในบริเวณศาลเจ้าทสึคุบะซังก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองงดงามยิ่งเช่นกัน

มิยูกิกาฮาระ (Miyukigahara) ที่ราบซึ่งอยู่ระหว่างยอดเขาทั้งสองยังเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเลื่องชื่อด้วย นอกจากนี้ยังสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba Nature Research Trail) ระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตรรอบเขานันไตได้ด้วย

ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม จะมีการประดับไฟไลต์อัพต้นเมเปิลบริเวณสถานีมิยาวากิของ Mt. Tsukuba Cable Car ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 17.00 – 20.00 น. โดยเฉพาะช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุด ซึ่งโดยปกติจะเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนนั้น จะมีการจัดในวันธรรมดาด้วย ใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำคืนนั้น ช่างงดงามอลังการจริงๆ

การชมทัศนียภาพของท้องฟ้ายามค่ำคืน (“Night Cruising”) ของ Mt. Tsukuba Cable Car จะให้บริการตามฤดูและช่วงเวลาที่มีการประดับไฟไลต์อัพ* เคเบิลคาร์ออกทุกๆ 20 นาที จำหน่ายเฉพาะตั๋วไปกลับในช่วงเวลาที่มีการจัด “Night Cruising” เท่านั้น (ผู้ใหญ่ 1,070 เยน ฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี)

4. Mt. Tsukuba “Stardust Cruising” (ชมละอองดาวบนเขาทสึคุบะยามค่ำคืน)

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว Mt. Tsukuba Ropeway จะให้บริการ “”Stardust Cruising”” (นั่งโรปเวย์ชมละอองดาว) ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 16:40 – 21:00 น.*

“”Stardust Cruising”” จะช่วยให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของที่ราบคันโตในยามพลบค่ำและเส้นขอบฟ้าของโตเกียวที่ส่องประกายระยิบระยับ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากยอดเขาแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “”มรดกทิวทัศน์ยามค่ำคืนของญี่ปุ่น”” นอกจากนี้ ท้องฟ้ายามค่ำคืนในช่วงเวลานี้ของทุกปียังสดใสเป็นพิเศษ จึงเหมาะกับการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราวเป็นอย่างยิ่ง

ผู้ที่อยากใช้ช่วงเวลายามค่ำคืนสุดแสนพิเศษ ขณะชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามของเขาทสึคุบะ ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์ “”Stardust Cruising”” ในช่วงเวลานี้ดู มีจำหน่ายเฉพาะตั๋วไปกลับเท่านั้น ราคาผู้ใหญ่ 1,300 เยน ฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

* ช่วงเวลาที่ให้บริการของเคเบิลคาร์และโรปเวย์จะแตกต่างกันในแต่ละปี กรุณาตรวจสอบรายละเอียดที่เว็บไซต์ทางการ

การปีนเขาทสึคุบะ มีคอร์สปีนเขามากมายสำหรับนักปีนเขาทุกระดับ

ประตูหิน (เป็น 1 ใน 7 กลุ่มหินรูปร่างแปลกตา) ที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทาง 

มีเส้นทางปีนเขาหลายเส้นทางให้ปีนขึ้นไปบนยอดเขาทสึคุบะ ชมหินรูปร่างแปลกตาและสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ในแต่ละเส้นทาง

・เส้นทางสำหรับนักปีนเขาขั้นสูงที่มีประสบการณ์การปีนเขามากมาย ได้แก่ Miyukigahara Course (2.1 กิโลเมตร), Shirakumobashi Course (2.7 กิโลเมตร) และ Yakuo-in Course (3.7 กิโลเมตร)

・เส้นทางระดับความยากปานกลาง ได้แก่ Otatsu-ishi Course (1 กิโลเมตร), Fukamine-hodo Course (1.2 กิโลเมตร), Campsite Course (1.6 กิโลเมตร) และ Higashi Tsukuba Hiking Course (4.4 กิโลเมตร)

・เส้นทางที่แม้แต่นักปีนเขามือใหม่ก็สามารถเพลิดเพลินกับการปีนเขาได้ง่ายๆ ได้แก่ Mukaeba Course (2.1 กิโลเมตร), Mountaintop Connection Trail (850 เมตร) และ Nature Research Trail (1.4 กิโลเมตร)

หลังฝนตก พื้นอาจลื่น ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกคอร์สหรือเส้นทางไหนก็ควรสวมรองเท้าเดินป่าแทนรองเท้าผ้าใบจะปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเขาทสึคุบะเป็นอุทยานธรณี จึงห้ามเข้า ยกเว้นเส้นทางเดินเขาและเส้นทางเดินป่าที่กำหนด ที่สำคัญคือห้ามเก็บสัตว์ พืช แมลง และแร่ธาตุกลับไป นอกจากนี้ กรุณาพกถุงขยะมาแล้วใส่ขยะของตัวเองนำกลับบ้านด้วย

กรุณาตรวจสอบรายละเอียดและแผนที่ของเส้นทางปีนเขาแต่ละคอร์สที่เว็บไซต์ทางการของเขาทสึคุบะ: เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นหรือเวอร์ชันภาษาอังกฤษ

คอร์สเดินป่าแนะนำที่ทุกคนสามารถสนุกเพลิดเพลินได้

วิธีไปสนุกเพลิดเพลินในเขาทสึคุบะโดยทั่วไปคือการนั่งรถบัสไปลงป้ายรถบัส Tsukubasan-Jinja Iriguchi จากนั้นนั่งเคเบิลคาร์จากสถานีมิยาวากิขึ้นไปยังเขานันไต จากจุดนี้สามารถเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ยอดเขานันไตได้ตามเส้นทางเชื่อมไปสู่ยอดเขา (Mountaintop Connection Trail) และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ (Nature Research Trail) รอบยอดเขานันไต

มีจุดชมวิวโคมะ (Koma Observatory) ใกล้กับสถานี Tsukuba-sancho ของ Mt. Tsukuba Cable Car ค่าเข้าชมฟรี โดยชั้น 1 เป็นร้านค้า ส่วนชั้น 2 เป็นร้านอาหารที่มองเห็นที่ราบคันโต และชั้น 3 เป็นจุดชมวิวบนดาดฟ้า

ที่โรงอาหารบนชั้น 2 สามารถลิ้มรสอาหารมื้อกลางวันและของว่างได้สบายๆ มีเมนูหลากหลายให้เลือก อย่างทสึคุบะอุด้งซึ่งเป็นเมนูชื่อดังของเขาทสึคุบะ, โซบะ, ทสึคุบะโทริโอยาโกะด้ง (ข้าวราดหน้าไก่กับไข่), ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น, และราเม็ง รวมถึงของหวานแสนอร่อยด้วย

ริชชินเซกิ (Risshin Rock) บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาทสึคุบะ (Nature Research Trail)

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาทสึคุบะรอบเขานันไต สามารถเดินเล่นไปรอบๆ ได้ภายในเวลาราว 1 ชั่วโมง เมื่อย่างเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามของต้นเมเปิลตามเส้นทางนี้ได้ จากริชชินเซกิ (โขดหินที่ตั้งสูงตระหง่าน ซึ่งว่ากันว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์) และบนยอดเขานันไต สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งเหนือที่ราบคันโตได้ ในวันที่อากาศแจ่มใสยังมองเห็นโตเกียวและภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

ชิโฮซึกิ (Shiho Sugi) บนเส้นทางเชื่อมสู่ยอดเขา (Mountaintop Connection Trail)

เส้นทางเชื่อมสู่ยอดเขาที่เชื่อมระหว่างเขานันไตและเขาเนียวไตใช้เวลาเดินราว 35 นาที ใกล้กับจุดชมวิวโคมะ ด้านข้างของเส้นทางขึ้นเขา มีชิโฮซึกิ (ต้นสนแห่งชิโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดรับพลังเสริมดวง “ชิโฮ” แปลว่า ยอดเขาสีม่วง ซึ่งมีที่มาจากสีของพื้นผิวภูเขาที่มองเห็นเป็นสีม่วงในช่วงยามเย็น) ต้นสนเก่าแก่นี้อายุราว 800 ปี สูง 40 เมตร ตั้งอยู่ติดกับแหล่งน้ำผุดซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำมินาโนะ (Minanogawa River)

กามะอิชิ (Gama Rock) บนเส้นทางเชื่อมสู่ยอดเขา (Mountaintop Connection Trail)

เมื่อย้อนกลับมาที่เส้นทางเชื่อมสู่ยอดเขาเพื่อมุ่งขึ้นไปสู่ยอดเขาเนียวไต จะพบโขดหินรูปร่างแปลกๆ ที่เรียกว่า “กามะอิชิ” ซึ่งบางมุมจะมองดูคล้ายกับกบกำลังอ้าปาก ว่ากันว่าคนที่โยนก้อนหินเล็กๆ เข้าไปในปากกบได้ จะมีโชคด้านการเงิน

โขดหินนี้คือต้นกำเนิดความสัมพันธ์ระหว่างเขาทสึคุบะกับกบ ที่ทำให้กบกลายเป็นสัตว์นำโชคในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ดังนั้น ของฝากสุดฮิตจากเขาทสึคุบะจึงเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีรูปกบ

ทิวทัศน์จากยอดเขาเนียวไตนั้นงดงามและสามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะใช้เวลาเงียบๆ สัก 2 – 3 นาที ทอดสายตาชมที่ราบคันโตที่กว้างใหญ่

มีจุดขึ้นโรปเวย์ใกล้ๆ กับยอดเขาเนียวไต กระเช้ากอนโดลา (gondola) จะพาขึ้นไปยังสถานี Tsutsujigaoka ในเวลาราว 6 นาที

โรงแรม ออนเซ็นเรียวกัง ที่พักบ้านญี่ปุ่นโบราณ และที่พักอื่นๆ บนเขาทสึคุบะ

บนเขาทสึคุบะซึ่งมีน้ำพุร้อนและธรรมชาติที่สวยงาม มีที่พักหลากหลายประเภท โดยเฉพาะใกล้กับป้ายรถบัส Tsukubasan-Jinja Iriguji ตรงทางเข้าศาลเจ้าทสึคุบะซัง เป็นที่รู้จักกันในฐานะย่านออกเซ็นทสึคุบะซังซึ่งมีโรงแรมและออนเซ็นเรียวกังมากมาย

บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งชมวิวแบบพาโนรามาที่อาโอคิยะโฮเต็ล

อาโอคิยะโฮเต็ล (Hotel Aokiya) เป็นออนเซ็นเรียวกังเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทสึคุบะ ห้องพักสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของที่ราบคันโต ห้องพักบางห้องมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งแบบส่วนตัว การเพลิดเพลินกับออนเซ็นภายใต้ท้องฟ้าอันสดใสยามค่ำคืนของเมืองทสึคุบะ จะกลายเป็นสุดยอดความทรงจำอย่างแน่นอน

ทสึคุบะแกรนด์โฮเต็ล (Tsukubasan Grand Hotel) เป็นโรงแรมที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิก สามารถใช้เวลายามค่ำคืนอันหรูหรา มีห้องพักกว้างขวาง ออนเซ็น และอาหารญี่ปุ่นรสเลิศให้บริการ

ผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การบริการแบบญี่ปุ่นในแบบฉบับเรียวกังญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิม ต้องแวะมาพักที่ทสึคุบะซัง เอโดยะ (Mount Tsukuba Edoya Inn) มีห้องอาบน้ำออนเซ็นที่กว้างขวางและอาหารไคเซกิแสนอร่อยซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวด้วย

ฮิโตโตกิ (Hitotoki Hostel & Lounge) บ้านญี่ปุ่นโบราณที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ เป็นที่พักแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่แบบญี่ปุ่นในบ้านที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารและสนทนากันได้ที่ชั้น 1 ซึ่งถือเป็นเสน่ห์สำคัญของเกสท์เฮาส์แห่งนี้เลยก็ว่าได

สามารถดูที่พักอื่นๆ บนเขาทสึคุบะได้ที่หน้าเพจที่พักของ Ibaraki Guide

ไปเที่ยวสนุกเพลิดเพลินและดื่มด่ำกับธรรมชาติที่เขาทสึคุบะกัน

เขาทสึคุบะเป็นที่เที่ยวซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายตลอดทั้งปี เดินทางจากโตเกียวมาได้ง่ายๆ มีเคเบิลคาร์และโรปเวย์ให้บริการ ทำให้ง่ายต่อการขึ้นไปถึงยอดเขาและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามจากยอดเขาแฝด

ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ภูเขาแห่งนี้เป็นที่เที่ยวทางญี่ปุ่นตะวันออกซึ่งควรค่าต่อการไปเที่ยวชม นั่นก็คือทั่วทุกแห่งล้วนมีตำนานและเรื่องราวต่างๆ ให้ได้เพลิดเพลิน ไปค้นหาและดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านี้ขณะเดินเล่นไปตามเส้นทางเดินเขาบนเขาทสึคุบะซึ่งมีศาลเจ้าและหินรูปทรงแปลกตากระจายอยู่ทั่วทุกแห่งกัน

All pictures from Pixta