ท่องเที่ยวทริปธรรมชาติในไดโกะมาจิ ทางเหนือของจังหวัดอิบารากิ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายอย่างน้ำตกฟุคุโรดะและออนเซ็น
อื่น ๆ
อาหาร
ธรรมชาติ
กิจกรรม
ไดโกะมาจิซึ่งอยู่ทางเหนือของจังหวัดอิบารากิเป็นขุมสมบัติแห่งของอร่อย ออนเซ็น และธรรมชาติอันงดงาม ที่แห่งนี้มีน้ำตกฟุคุโรดะชื่อดังที่สุด แต่ยังสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและกิจกรรมต่างๆ ด้วย ขอแนะนำสถานที่เที่ยวน่าสนใจในไดโกะมาจิ, กิจกรรมกลางแจ้ง, ออนเซ็น และอาหารรสเลิศในท้องถิ่น
ไดโกะมาจิ (Daigomachi) สถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติ
ทิวทัศน์ไดโกะมาจิจากเขาทสึกิโอเระ Photo by Pixta
พื้นที่หลายแห่งทางเหนือของจังหวัดอิบารากิเป็นพื้นที่ภูเขาที่มีหุบเขาสวยงาม น้ำตก และป่าสีเขียวขจี โดยเฉพาะไดโกะมาจิซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี
ไดโกะมาจิมีน้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda no Taki หรือ Fukuroda Falls) ชื่อดัง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 น้ำตกชื่อดังที่สุดของญี่ปุ่น แต่เสน่ห์ของไดโกะไม่ได้มีแค่น้ำตกฟุคุโรดะ ที่นี่ยังมีประวัติอันยาวนานในฐานะพื้นที่ออนเซ็นและพื้นที่ท่องเที่ยวที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามได้
บทความนี้ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม และของอร่อยที่ห้ามพลาดในดินแดนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้ เช่น ทิวเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตา ทิวทัศน์น้ำตก ออนเซ็น ของขึ้นชื่อในท้องถิ่น และงานหัตถกรรมพื้นบ้าน
วิธีเพลิดเพลินในไดโกะมาจิ ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
ขอแนะนำสถานที่เที่ยวและกิจกรรมสุดวิเศษในไดโกะมาจิ
1. 3 น้ำตกสุดวิเศษ ที่ไม่ได้มีแค่น้ำตกฟุคุโรดะ
หนึ่งในจุดชมทิวทัศน์ของน้ำตกฟุคุโรดะ Photo by Pixta
นอกจากน้ำตกฟุคุโรดะชื่อดัง ไดโกะมาจิยังมีน้ำตกที่โดดเด่นอีก 2 แห่ง
อันดับแรกคือน้ำตกฟุคุโรดะซึ่งเป็น 1 ใน 3 น้ำตกชื่อดังที่สุดของญี่ปุ่น สูง 120 เมตร กว้าง 73 เมตร น้ำตกฟุคุโรดะมีสถานที่ชมทิวทัศน์อันงดงามหลายแห่ง สามารถชมน้ำตกที่ไหลลงมาตามพื้นโขดหินภูเขาไฟที่สูง 4 ชั้น
Photo by Pixta
น้ำตกฟุคุโรดะมีทิวทัศน์ที่ต่างกันในแต่ละฤดูกาล ฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสีย้อมภูเขาเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลือง และทำให้สายน้ำตกที่ใสสะอาดโดดเด่นยิ่งขึ้น คือหนึ่งในช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของปี
ในฤดูหนาวน้ำของน้ำตกอาจกลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้ทิวทัศน์ดูงดงามราวกับโลกแห่งความฝัน ช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวน้ำตกจะมีการประดับไฟไลท์อัพ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานอีเวนท์และนิทรรศการศิลปะต่างๆ ที่ต้องลองมาเที่ยวสักครั้ง เส้นทางขึ้นไปยังน้ำตกมีร้านจำหน่ายของฝากต่างๆ เช่น ปลาอายุย่างเกลือ ชา และขนมที่ทำจากผลไม้ในท้องถิ่น
Photo by Pixta
น้ำตกนามาเซะ (Namasedaki Falls) ซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกฟุคุโรดะ มีขนาดเล็ก สูงราว 15 เมตร แต่มีโครงร่างเป็นครึ่งวงกลม น้ำตกจะไหลลงมาเป็นชั้นตกลงสู่หินภูเขาไฟเบื้องล่าง ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับน้ำตกฟุคุโรดะ
Photo by Pixta
น้ำตกที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดอันดับที่ 3 ในไดโกะมาจิคือ น้ำตกทสึกิมาจิ (Tsukimachi no Taki หรือ Tsukimachi Falls) ที่ไหลอย่างเงียบสงบในหุบเขา น้ำตกแห่งนี้มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือสามารถชมทิวทัศน์จากด้านล่างโขดหินหลังน้ำตก ซึ่งจะสร้างความทรงจำแก่ผู้ที่ได้ชมเสมอ มีคาเฟใกล้ๆ ที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจขณะฟังเสียงใสๆ ของน้ำตก
Photo by Pixta
หากมาเยือนในฤดูใบไม้ร่วง ลองแวะไปที่วัดเออิเกนจิ (Eigen-ji Temple) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดโมมิจิหรือวัดเมเปิ้ล ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงที่มีอาคารของวัดเป็นฉากหลังนั้นงดงามมากจนตะลึง เดินจากสถานีฮิตาจิไดโกะ (Hitachi Daigo) 10 นาที ก็จะพบวัดบนเนินเขาระหว่างทางจากน้ำตกฟุคุโรดะไปยังน้ำตกทสึกิมาจิ
2. เส้นทางเดินป่าปีนเขาชมทิวทัศน์อันยอดเยี่ยม
Photo by Pixta
ท่านที่ชื่นชอบการเดินป่าปีนเขาจะสนุกกับการที่ได้ไปสำรวจภูเขาในไดโกะมาจิอย่างแน่นอน Ibaraki Kenpoku Long Trail เป็นเส้นทางเดินป่าปีนเขาชื่อดังของพื้นที่นี้ซึ่งผ่านบริเวณนี้ เส้นทางนี้มีทั้งป้ายภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษคอยบอกทางอยู่ Ibaraki Kenpoku Long Trail เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความยาวรวม 320 กิโลเมตรซึ่งมีแผนจะเชื่อมต่อกับหมู่บ้าน ตำบล และเมืองทางเหนือของจังหวัดอิบารากิอีก 6 แห่ง ปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่
จุดเด่นที่สุดของเส้นทางนี้คือไม่เพียงสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ภูเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตา แต่ยังเป็นจุดที่สามารถเยื่ยมชมหมู่บ้านที่ผู้คนในท้องถิ่นอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สวยงามเช่นนี้และมองการใช้ชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น
หากมาพักที่ไดโกะมาจิ ลองท้าทายตัวเองกับการเดินป่าปีนเขาแบบทริปวันเดียวในเส้นทางระหว่าง 3 น้ำตกและเขานามาเซฟูจิ (Mt. Namase-Fuji) ก็เยี่ยมนะ เขานามาเซฟูจินี้ยังมีอีกชื่อว่า Ibaraki Gendarme อันเนื่องมาจากชะง่อนหินสูงชันชื่อดังในเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่เรียกว่า Gendarme
Photo by Pixta
ในตอนเช้าจะเริ่มออกเดินทางจากมิยากาวะคอมมิวนิตี้เซ็นเตอร์ (Miyagawa Community Center) โดยมุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรกคือน้ำตกทสึกิมาจิ ใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงจะถึงเขานามาเซฟูจิ แม้ที่นี่จะมีระดับความสูงเพียง 406 เมตรซึ่งไม่สูงมากนัก แต่บนยอดจะมีพื้นที่โขดหินที่น่าทึ่ง และยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์แบบพาโนรามา ดังนั้น จึงคุ้มค่าที่จะมาเดินป่าปีนเขาขึ้นไป
สันเขาที่อยู่ด้านบนค่อนข้างชัน และเส้นทางลงเขาก็ลาดชันมาก ดังนั้นขอให้ระมัดระวังด้วย โดยรวมแล้วมีระดับความยากปานกลาง ดังนั้นก่อนขึ้นเขาควรเตรียมความแข็งแรงของร่างกายและเสื้อผ้าให้พร้อม
หลังเที่ยงเล็กน้อยก็จะมุ่งหน้าไปยังยอดเขาทัตสึกามิ (Mt. Tatsugami) และเดินต่อไปที่จุดชมวิวทาคิกามิ (Takigami) ที่นี่จะได้ชมน้ำตกฟุคุโรดะจากด้านบน
เส้นทางเดินป่าปีนเขาทสึกิโอเระ (Mt. Tsukiore Hiking Course) Photo by Pixta
เส้นทางนี้จะมุ่งไปยังเขาทสึกิโอเระ (Mt. Tsukiore) มีสถานที่ชมทิวทัศน์สวยที่สามารถมองเห็นน้ำตกนามาเซะและน้ำตกฟุคุโรดะได้ การเดินป่าระหว่างน้ำตกทั้งสองแห่งนี้ใช้เวลาราว 20 นาที มีที่จอดรถหลักใกล้น้ำตกฟุคุโรดะอยู่ตรงเชิงเขานี้
Strawberry geranium flowers. Photo by Pixta
ในฤดูร้อนการได้เฝ้าสังเกตลักษณะของพันธุ์พืชแปลกๆ ที่ชอบร่มเงา เช่น ดอกนิกโก้คิซุเกะ (Nikko Kisuge Flower) และดอกสตรอว์เบอร์รี่เจอราเนียม (Strawberry Geranium Flower) ก็เยี่ยม ขอแนะนำให้มาเดินป่าปีนเขาเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงด้วยเช่นกัน
3. ช่วงเวลาแห่งความสุขที่ออนเซ็นต่างๆ
Photo by Pixta
พื้นที่ไดโกะมีออนเซ็น 3 แห่งที่มีคุณสมบัติต่างกันเล็กน้อย
ออนเซ็นแห่งแรกคือไดโกะออนเซ็น (Daigo Onsen) ซึ่งมีน้ำพุร้อนคลอไรด์และน้ำพุร้อนโซเดียมซัลเฟต ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยให้ผิวสวยงาม นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ และอาการหนาวสั่นง่าย
โมริโนะอิเดยุ (Mori no Ideyu Hot Spring) เป็นออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับที่สามารถเพลิดเพลินกับบ่อน้ำร้อนต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำร้อนในร่ม บ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ห้องซาวน่า และบ่อน้ำวนอัดอากาศ ภายในกว้างขวางมีร้านอาหารซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อต่างๆ เช่น ฮิตาจิอากิโซบะ
หากจะพักที่ที่พักออนเซ็น ขอแนะนำยามิโซะ (Daigo Onsen YAMIZO Hotel) ที่มีบ่อน้ำร้อนลอยแอปเปิ้ลที่ขึ้นชื่อในฤดูใบไม้ร่วง และมีอาหารญี่ปุ่นรสเลิศให้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้เพลิดเพลินด้วย
ออนเซ็นถัดมาคือฟุคุโรดะออนเซ็น (Fukuroda Onsen) ซึ่งมีน้ำพุร้อนคลอไรด์ น้ำพุร้อนซัลเฟต และน้ำพุร้อนอัลคาไลน์ ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ปวดเส้นประสาท, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ รวมทั้งคลายความเหนื่อยล้าฟื้นคืนความสดชื่นด้วย
โอโมอิเดะ โรมันคัง (OMOIDE ROMANKAN Inn Fukuroda Hot Springs) เป็นออนเซ็นเรียวกังชื่อดังเรื่องอาหารอร่อยสุดพิถีพิถัน รวมทั้งสถานที่พักผ่อนและห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณดังกล่าวนี้
ติดกับน้ำตกฟุคุโรดะมีโฮเนน มันซาคุ (HONEN MANSAKU Inn Fukuroda Onsen) เป็นออนเซ็นเรียวกังเก่าแก่ ที่มีพายแอปเปิ้ลชื่อดังที่สามารถซื้อกลับบ้านได้
และออนเซ็นแห่งที่ 3 คือทสึคิโอริออนเซ็น (Tsukiore Onsen) ที่ต้นน้ำของน้ำตกฟุคุโรดะ มีอัลคาไลน์ที่อ่อนโยนต่อผิว ว่ากันว่าช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเส้นประสาท โรคภูมิแพ้ และแผลฟกช้ำ
สามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นแห่งนี้ได้ที่ชิราคิโซะ (SHIROKISO) ที่พักซึ่งบริหารโดยคนท้องถิ่น อยู่บนเส้นทางแวะในการเดินป่าปีนเขาของ Ibaraki Kenpoku Long Trail มีห้องพักสไตล์สบายๆ 13 ห้อง ผู้เข้าพักสามารถสนุกกับอาหารสุขภาพทำเองซึ่งเน้นวัตถุดิบท้องถิ่น
แม้การเที่ยวออนเซ็นอาจไม่ใช่เป้าหมายแรกในการมาเยือนไดโกะ แต่ลองแวะมาเยียวยาความเหนื่อยล้าด้วยน้ำพุร้อนชื่อดังในท้องถิ่นกัน รับรองว่าจะช่วยเติมเต็มการเดินทางท่องเที่ยวนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
4. งานเครื่องเขินคุณภาพเยี่ยมและงานหัตถุกรรมพื้นบ้าน
ไดโกะมาจิเป็นแหล่งปลูกต้นยางรักมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ถัดจากจังหวัดอิวาเตะ เนื่องจากการปลูกต้นยางรักจนกระทั่งเก็บยางรักด้วยมือต้องใช้เวลานานนับ 10 ปี ยางรักไดโกะมีความโปร่งใสและคุณภาพเยี่ยม จึงใช้ในการจบขั้นตอนสุดท้ายของการทำเครื่องเขินวาจิมานุริที่มีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่น รวมทั้งใช้ในการบูรณะซ่อมแซมอาคารทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
สามารถซื้อเครื่องเขินยอดเยี่ยมของไดโกะได้ที่คิจิอัน (KIJIAN) ร้านค้าและสตูดิโอซึ่งดำเนินการโดยช่างเครื่องเขินที่ได้รับรางวัล คุณทสึจิ โทรุเกิดที่จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) และมาเรียนรู้เทคนิคการทำเครื่องเขินที่ไดโกะมาจิ แต่ด้วยความความตั้งใจที่จะใช้ยางรักของท้องถิ่นนี้เพื่อผลิตเครื่องเขินคุณภาพเยี่ยม จึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นี้
KIJIAN จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลายตั้งแต่ชามญี่ปุ่นสวยงามที่ชาวญีปุ่นใช้กันทั่วไป จอกใส่สาเก ตะเกียบ แจกันและอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่ใช้ไม้เครื่องเขิน ตลอดจนถึงอุปกรณ์พิธีชงชาญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ยิ่งใช้ก็ยิ่งมีประกายแวววาวมากขึ้น ดังนั้น ลองซื้อหาไปเป็นของฝากในการเดินทางมาไดโกะกันนะ
ยังมีเรื่องที่น่ายินดีมากๆ สำหรับท่านที่ชื่นชอบศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีน เนื่องจากไดโกะเป็นแหล่งผลิตโคกุจุเซกิไดโกะซุซุริ (แป้นหมึกเขียนพู่กันไดโกะที่ทำจากหินโคกุจุ) วัสดุที่ใช้ทำแป้นหมึกนี้เป็นหินที่สกัดในไซกาจิซาวะ (Saikachizawa) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างมากว่าเป็นหินที่มีคุณภาพเยี่ยมมาตั้งแต่ต้นสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) เนื่องจากความมีประกายของหินนี้ ไดโกะซุซุริ (แป้นหมึกเขียนพู่กันไดโกะ) จึงได้รับการเปรียบเปรยบ่อยๆ ว่าเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว ท่านที่สนใจลองแวะไปที่ THE GRAND DAIGO ร้านจำหน่ายงานหัตถกรรมพื้นบ้านดูนะ
อาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของไดโกะมาจิ
Photo by Pixta
ไดโกะมาจิซึ่งมีธรรมชาติอันอุดมแห่งนี้เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพเยี่ยม
หนึ่งในนั้นคือปลาอายุย่างเกลือซึ่งจำหน่ายในร้านต่างๆ รอบน้ำตกฟุคุโรดะ เป็นอาหารรสเลิศของท้องถิ่นที่อยากให้ลิ้มลองกัน ปลาอายุเหล่านี้เติบโตในสายน้ำที่ใสสะอาดของภูเขาแห่งนี้ วิธีเพลิดเพลินกับรสชาติที่เต็มเปี่ยมตามธรรมชาติของปลาอายุที่ดีที่สุด คือการปรุงรสง่ายๆ ด้วยเกลือแล้วนำไปย่างบนถ่าน
สามารถลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของไดโกะมาจินี้ได้ที่อุเมคิจิ (UMEKICHI) ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวสบายๆ ซึ่งมีที่นั่งริมระเบียงติดแม่น้ำ ทางร้านจะจับปลาในแม่น้ำที่อยู่เบื้องหน้าลูกค้าแล้วย่างให้รับประทานกันสดๆ เสน่ห์สุดยอดของร้านอาหารแห่งนี้คือสามารถลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงด้วยมือง่ายๆ ท่ามกลางเสียงใสๆ ในธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้
Photo by Pixta
หากมาเยือนไดโกะมาจิในฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน แอปเปิ้ลเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาด พื้นที่แห่งนี้มีเกษตรกรแอปเปิ้ลราว 50 ครอบครัว แอปเปิ้ลโอคุคุจิเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของไดโกะ โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมและความหวานสดชื่น สามารถลิ้มลองความอร่อยแบบสดๆ หรือในแบบขนมหวานอย่างพายแอปเปิ้ลก็ได้
นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมเก็บแอปเปิ้ลรับประทานในสวนได้ ที่สวนแอปเปิ้ลฟุจิตะ (FUJITA APPLE ORCHARD LLC) สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บแอปเปิ้ลในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนในราคากิโลกรัมละ 600 เยน (* มีค่าเข้าสวนแยกต่างหาก) ในบริเวณสวนยังมีสถานที่จัดบาร์บีคิวที่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อวัวฮิตาชิวากิวย่างราดซอสแอปเปิ้ลสไตล์โฮมเมด
สำหรับสวนแอปเปิ้ลคุโรดะ (KURODA APPLE ORCHARD) ซึ่งมีประวัติยาวนานราว 80 ปี ก็สามารถร่วมกิจกรรมเก็บแอปเปิ้ล (กิโลกรัมละ 750 เยน) สวนแห่งนี้ปลูกแอปเปิ้ลมากถึงราว 80 ชนิด
หากอยากลิ้มรสพายแอปเปิ้ลของไดโกะ ขอแนะนำคาเฟ่ยูโมอะ (Cafe YUMOA) คาเฟ่บ้านท่อนซุงสุดเก๋บนเส้นทางเดินเขาใกล้น้ำตกฟุคุโรดะ กาแฟดริปมือที่เจ้าของร้านชงเองนี้เป็นที่เลื่องลือในความยอดเยี่ยม ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับชุดกาแฟกับพายแอปเปิ้ลในราคา 900 เยนด้วย
Photo by Pixta
ไดโกะยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารจากไก่สายพันธุ์ชาโมะที่รู้จักกันในชื่อไก่โอคุคุจิชาโมะ เนื่องจากมีกล้ามเนื้อเยอะ ไขมันน้อย จึงมีรสชาติเข้มข้นกว่าเนื้อไก่ทั่วไป และมีเนื้อสัมผัสแน่น ยามากิ (YAMAKI) ร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งให้บริการอาหารจากไก่โอคุคุจิชาโมะแห่งนี้เป็นที่ยอมรับในความยอดเยี่ยมมากๆ สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของไก่โอคุคุจิชาโมะแบบเต็มๆ ได้ในเมนูสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น เนื้อย่าง และซุปรสชาติเข้มข้น
Photo by Pixta
ไดโกะเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกชาทางเหนือสุดของญี่ปุ่น มีฤดูหนาวที่หนาวเย็น และความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนค่อนข้างมาก ดังนั้นชาโอคุคุจิจึงมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์มากๆ
สถานที่ซึ่งเหมาะในการเพลิดเพลินกับชาขึ้นชื่อของท้องถิ่นคือสวนโอคุคุจิ ชาโนะซาโต (OKUKUJI CHANOSATO PARK) คอมเพล็กซ์อันกว้างใหญ่บริเวณเชิงเขายามิโซะ (Mt. Yamizo) ทางเหนือของไดโกะมาจิ รอบ ๆ สวนแห่งนี้มีสวนชากว้างครอบคลุมพื้นดินทั่วทั้งภูเขา ภายในมีกิจกรรมหลากหลายเกี่ยวกับชาญี่ปุ่นให้เพลิดเพลินตั้งแต่กิจกรรมเก็บใบชาในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน (ระยะเวลา 40 นาที 350 เยน) กิจกรรมนวดใบชาด้วยมือ (ระยะเวลา 1 ชั่วโมง 1,800 เยน) และกิจกรรมพิธีชงชาแบบเต็มรูปแบบในห้องชา 3 ห้องที่อยู่ภายในพื้นที่ซึ่งเรียกว่าซุยกิ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บรรยากาศที่สงบของห้องชาเป็นพื้นที่ทำงานได้ด้วย
OKUKUJI CHANOSATO PARK มีร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และสตูดิโอที่สามารถร่วมกิจกรรมนวดแป้งทำเส้นโซบะ หรือทำคอนเนียคุ (คอนยัคคุหรือบุก) ได้ด้วย รวมทั้งยังมีร้านจำหน่ายชาต่างๆ ที่ผลิตในท้องถิ่นด้วย
* การร่วมกิจกรรมต้องโทรศัพท์จองล่วงหน้า
แวะมาเที่ยวไดโกะมาจิแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสดชื่น ทางเหนือของจังหวัดอิบารากิกัน
ไดโกะมาจิเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะที่จะมาดื่มด่ำกับธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น ทิวทัศน์ภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ ของกินอร่อยๆ ออนเซ็น และงานหัตถกรรมต่างๆ มาเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง โดยตั้งต้นจากน้ำตกฟุคุโรดะชื่อดัง การพบปะอันน่าตื่นเต้นในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใครของพื้นที่นี้ จะกลายเป็นความทรงจำของทริปท่องเที่ยวทางเหนือของจังหวัดอิบารากิอย่างแน่นอน