บทความนี้ขอแนะนำจุดชมดอกไม้อันงดงามในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ซึ่งมีทั้งสวนสาธารณะและสวนต่างๆ ที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้งามในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกเนโมฟีลาที่ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค, ดอกบ๊วยที่สวนไคราคุเอน, และดอกสึสึจิที่เมืองคาซามะ ไปชมทิวทัศน์อันงดงามของญี่ปุ่นในจังหวัดอิบารากิ พร้อมสัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมกัน

จุดชมดอกไม้ในแต่ละฤดูกาลชานกรุงโตเกียว

จังหวัดอิบารากิตั้งอยู่ใกล้โตเกียว มีสถานที่ชมดอกไม้ที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง สามารถชื่นชมดอกไม้และพืชพรรณต่างๆ ได้เกือบตลอดทั้งปี

โดยเฉพาะฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์คนั้นมีชื่อเสียงที่สุด แต่ก็ยังมีสวนสาธารณะและสวนอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายซึ่งไม่ได้มีแค่ดอกไม้เท่านั้น แต่ยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดำรงอยู่ด้วย

บทความนี้ขอแนะนำ 6 ทิวทัศน์ดอกไม้อันงดงามในจังหวัดอิบารากิที่ควรค่าแก่การไปเยือน หลายแห่งเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะไปได้ง่ายๆ แต่หากต้องการสำรวจอิบารากิอย่างอิสระมากขึ้น ขอแนะนำให้ใช้บริการรถเช่า

1. ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (เมืองฮิตาจินากะ)

Picture courtesy of Hitachi Seaside Park

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอิบารากิ มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ราว 215 เฮกตาร์

ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่ได้รับความนิยมที่สุด ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับดอกเนโมฟีลา (ดอกเบบี้บลูอายส์) ดอกไม้สีฟ้าสวยราว 5.3 ล้านดอก ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เนินเขาทั้งลูกของสวนแห่งนี้จะปกคลุมไปด้วยสีฟ้าพาสเทลอ่อนๆ ที่กลมกลืนกับท้องฟ้า
ในช่วงฤดูนี้ การไปเยือนในวันธรรมดาจะเดินทางง่ายกว่าวันหยุด และยังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ทุ่งทะเลสีฟ้าอันงดงามได้แบบสบายๆ ด้วย

Picture courtesy of Hitachi Seaside Park

นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนตุลาคม พุ่มโคเชียราว 40,000 พุ่มบนเนินเขาเดียวกันจะเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงทีละน้อย และในช่วงกลางเดือนตุลาคมก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ทิวทัศน์ตระการตาของพุ่มโคเชียที่รายล้อมไปด้วยดอกคอสมอสและดอกโซบะนั้นน่าประทับใจมากๆ
นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งตามฤดูกาล เช่น ดอกซุยเซ็น (ดอกแดฟโฟดิล) ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน, ดอกนาโนะฮานะ (ดอกเรป) และดอกทิวลิปในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนเมษายน และดอกป๊อปปี้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม

นอกจากดอกไม้นานาพันธุ์ตามฤดูกาลแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีพื้นที่สวนสนุกพร้อมชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่และเครื่องเล่นต่างๆ รวมถึงพื้นที่ทำบาร์บีคิวและคาเฟ่ด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมพื้นที่อันกว้างใหญ่ เพื่อเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ด้วย

2. สวนไคราคุเอน (เมืองมิโตะ)

Picture courtesy of Kairakuen Garden

สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) ที่มีประวัติอันยาวนานแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 1842 โดยโทคุกาวะ นาริอากิ ผู้ปกครองลำดับที่ 9 ของแคว้นมิโตะ (แคว้นที่ปกครองพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของจังหวัดอิบารากิในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นแคว้นในสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ 58 เฮกตาร์ ซึ่งรู้จักในฐานะ 1 ใน “3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของญี่ปุ่นด้วย

มีคาเฟ่ทันสมัยอยู่ภายในโคบุนเท (Kobuntei) บ้านพักของโทคุกาวะ นาริอากิที่ได้รับการบูรณะใหม่ด้วย

Picture courtesy of Kairakuen Garden

ภายในสวนแห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี แต่ไฮไลต์คือดอกบ๊วยซึ่งเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่บานเร็วที่สุดในฤดูกาล ต้นบ๊วยราว 3,000 ต้น 100 สายพันธุ์จะผลิดอกบานสะพรั่งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม ทำให้ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามของดอกบ๊วยสีขาวและสีชมพู

ในช่วงที่ดอกบ๊วยบานสะพรั่งนี้ เมืองมิโตะ (Mito) จะจัดเทศกาลดอกบ๊วย มิโตะ (Mito Plum Blossom Festival) งานเทศกาลยอดนิยมที่มีประวัติยาวนานกว่า 120 ปี นอกจากกิจกรรมต่างๆ เช่น การชิมเหล้าบ๊วยในระหว่างวันแล้ว ในตอนกลางคืนยังสามารถชมแสดงสุดพิเศษที่ผสานการประดับไฟไลท์อัพกับทะเลหมอกเข้าด้วยกันด้วย

3. อิบารากิ ฟลาวเวอร์ พาร์ค (เมืองอิชิโอกะ)

Picture courtesy of Ibaraki Flower Park

อิบารากิ ฟลาวเวอร์ พาร์ค (Ibaraki Flower Park) ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสึคุบะ (Mt. Tsukuba) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้สวย หนึ่งในไฮไลต์ของดอกไม้ในสวนแห่งนี้คือดอกกุหลาบ 900 ชนิด ในพื้นที่กว้างใหญ่ 30 เฮคเตอร์ปลูกกุหลาบโดยจัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่น ระเบียงกุหลาบ กุหลาบแยกตามสี กุหลาบหอม และอุโมงค์กุหลาบ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน และช่วงฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

นอกจากนี้ในสวนยังมีดอกไม้ต่างๆ ตามฤดูกาล เช่น ดอกอาจิไซ (ดอกไฮเดรนเยีย) 6,000 ต้น 60 สายพันธุ์ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน 100,000 ต้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม และดอกดาวเรืองในช่วงเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวยังมีการประดับไฟยามค่ำคืน สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศชวนฝันของสวนในยามค่ำคืนที่โอบล้อมไปด้วยแสงไฟที่อบอุ่นออนโยน

Picture courtesy of Ibaraki Flower Park

อิบารากิ ฟลาวเวอร์ พาร์คยังมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย สามารถเพลิดเพลินกับ “100 กิจกรรม” ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย รวมถึงกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ตามฤดูกาลที่ใช้ดอกไม้ในสวนแห่งนี้ เช่น การทำพวงมาลัยแขวนตกแต่ง การทำสเปรย์อโรมา และการเก็บดอกไม้

นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้ลิ้มรสอาหารและขนมหวานที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในธีมกุหลาบ และสถานที่ตั้งแคมป์ที่รายล้อมไปด้วยซากุระ

4. สวนคาซามะสึสึจิ (เมืองคาซามะ)

Picture courtesy of Kasama Tourist Association

สวนสาธารณะคาซามะอาซาเลียเป็นจุดที่น่าสนใจครอบคลุมพื้นที่เจ็ดเฮกตาร์
ในบริเวณสวนสาธารณะ คุณสามารถชมดอกอาซาเลีย 8,500 ต้นจาก 25 สายพันธุ์ที่แตกต่างหลากสีสัน มีทั้งสีแดง ชมพู ม่วง และขาว ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึง
ต้นเดือนพฤษภาคม เนินเขาและทางเดินตกแต่งด้วยดอกชวนชมหลากสีสัน
ดังนั้นการได้เดินเล่นสบายๆ จะเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ

เทศกาลชมดอกสึสึจิ (Tsutsuji Matsuri หรือ Azalea Festival) ของเมืองคาซามะจัดขึ้นในช่วงที่ดอกสึสึจิบานสะพรั่ง โดยทุกวันจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างพิธีชงชา และศิลปะการแสดงในท้องถิ่นอย่างดนตรีโอฮายาชิ (ดนตรีบรรเลงในงานเทศกาล) ที่ช่วยสร้างรรยากาศให้มีชีวิตชีวา

Picture courtesy of Kasama Tourist Association

เส้นทางเดินเล่นรอบๆ สวนใช้เวลาราว 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ด้านบนสุดมีสนามหญ้าและจุดชมวิวแบบพาโนรามาซึ่งสามารถใช้เวลาผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของดอกไม้หลากสีสัน

นอกจากนี้ ช่วงวันที่ 29 เมษายนถึง 5 พฤษภาคม ในเมืองคาซามะยังจัดเทศกาลเครื่องปั้นดินเผาฮิมัตสึริคาซามะ (Kasama Himatsuri Pottery Festival หรือ Kasama Pottery Market) เป็นเหมือนตลาดนัดเครื่องปั้นดินเผาคาซามะ สามารถสนุกเพลิดเพลินไปพร้อมกับการชมสวนคาซามะสึสึจิแห่งนี้ได้เลย

5. วัดอามาบิกิคันนง (เมืองซากุระกาวะ)

Picture courtesy of Amabiki Kannon Temple

วัดอามาบิกิคันนง (Amabiki Kannon Temple) ตั้งอยู่ตอนกลางของเขาอามาบิกิ (Mt. Amabiki) เป็นวัดเก่าแก่และเงียบสงบ
ว่ากันว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 587 ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่สักการะเพื่อขอพรให้ครอบครัวมีความสุขและคลอดลูกอย่างปลอดภัย

Picture courtesy of Amabiki Kannon Temple

ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกรกฎาคม ดอกอาจิไซ (ดอกไฮเดรนเยีย) 5,000 ต้น 100 สายพันธุ์ผลิบานสร้างสีสันให้กับบริเวณวัดอามาบิกิคันนง ทำให้ผู้มาสักการะขอพรมากมายได้เพลิดเพลินกัน
นอกจากนี้ ทิวทัศน์ของดอกอาจิไซตัดก้านที่ลอยอยู่ในสระน้ำเล็กๆ ของวัดดูราวกับพรมดอกไม้นั้น ช่างงดงามยิ่ง

เสน่ห์อีกอย่างของที่นี่คือทิวทัศน์อันงดงามตามฤดูกาลของญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้มีแต่ดอกอาจิไซในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังมีดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังเลี้ยงนกยูง เป็ด และแพะไว้ ทำให้ทิวทัศน์ของที่นี่มีเสน่ห์แปลกตาต่างจากที่อื่นๆ

6. สวนดอกไอริส ซุยโก อิดาโกะ (เมืองอิตาโกะ)

Picture courtesy of Itako City

สวนดอกไอริส ซุยโก อิดาโกะ (Suigo Itako Iris Garden) อันงดงามนี้ ซึ่งเรียกสั้นๆ ตามป้ายบอกทางบนถนนว่าสวนอายาเมะ (Ayame Garden) มีขนาดกว้างใหญ่ราว 1.3 เฮกตาร์ ขึ้นชื่อในเรื่องดอกไอริส (ดอกอายาเมะ) อันงดงามหลากสีสัน โดยปลายเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนมิถุนายนจะมีการจัดงานเทศกาลดอกไอริส (Suigo Itako Iris Festival) ขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไอริสราว 1 ล้านดอก 500 สายพันธุ์บานสะพรั่ง

เทศกาลดอกไอริสนี้ ไม่ได้มีแค่ทิวทัศน์ดอกไม้กับแม่น้ำสวยๆ เท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งอีกด้วย

อีกหนึ่งในไฮไลต์คือการพายเรือส่งตัวเจ้าสาว (Yomeiribune) ซึ่งเป็นประเพณีในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยจะจัดให้ชมในวันพุธ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ของช่วงงานเทศกาล เจ้าสาวแสนสวยสวมชุดแต่งงานญี่ปุ่นสีขาวจะขึ้นเรือโรฟูเนะ (เรือพายแบบดั้งเดิมที่ใช้ไม้พาย) ล่องไปตามแม่น้ำพร้อมกับแม่สื่อ เพื่อไปหาเจ้าบ่าวในสวน แล้วเดินไปด้วยกันท่ามกลางสวนที่มีดอกไอริสบานสะพรั่ง

ส่วนตอนท้าย จะได้ชมคู่บ่าวสาวนั่งรถลาก ประเพณีนี้เป็นการจำลองพิธีงานแต่งงานที่เจ้าสาวล่องเรือไปหาเจ้าบ่าวที่จัดกันในเมืองอิตาโกะ (Itako) ซึ่งเดิมเคยมีเส้นทางน้ำต่างๆ มากมาย

สวนแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้อื่นๆ เช่น ดอกฟูจิ (ดอกวิสทีเรีย) และดอกอาจิไซได้ด้วย

มาเพลิดเพลินกับดอกไม้งามในญี่ปุ่นที่อิบารากิกัน

อิบารากิยังมีไฮไลต์และสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจให้ชมอีกมากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่สามารถชื่นชมทิวทัศน์ดอกไม้อันงดงาม เช่น ดอกพีชและดอกซากุระอันแสนบอบบาง ดอกบัวอันงดงาม ดอกทานตะวันที่ทำให้รู้สึกสดใส และดอกฮิกันบานะ (ดอกลิลลี่แมงมุมแดง) อันลึกลับ ไปตระเวนเที่ยวอิบารากิพร้อมสัมผัสธรรมชาติให้มากขึ้น และค้นพบเสน่ห์ใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกครั้งที่มาเยือนกัน