แนะนำ 3 เส้นทางรถไฟท้องถิ่นในอิบารากิ (Ibaraki) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ น่าไปเที่ยวสุดๆ

แนะนำ 3 เส้นทางรถไฟท้องถิ่นในอิบารากิ (Ibaraki) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ น่าไปเที่ยวสุดๆ

เที่ยวจังหวัดอิบารากิที่กว้างใหญ่ด้วยเส้นทางรถไฟท้องถิ่นที่จะกลายเป็นความทรงจำสุดพิเศษอย่างแน่นอน บริษัทรถไฟแต่ละแห่งได้ทุ่มเทความพยายามอย่างหนัก รวมทั้งสร้างสรรค์สินค้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ เพื่อดึงดูดผู้คนให้มานั่งรถไฟกัน บทความนี้ขอแนะนำ 3 เส้นทางรถไฟที่แม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่เท็ตสึโดโอตาคุ (แฟนๆ ผู้ชื่นชอบหรือคลั่งไคล้รถไฟ) ก็ยังอยากลองมาใช้บริการเส้นทางรถไฟเหล่านี้สักครั้ง

รถไฟท้องถิ่นของอิบารากิเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์

 

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway

การท่องเที่ยวด้วยเส้นทางรถไฟท้องถิ่นของญี่ปุ่นถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ขึ้นรถไฟสายที่ไม่ใช้ไฟฟ้าซึ่งมีรถเพียง 1 – 2 ตู้ ไปเที่ยวชมสถานีรถไฟที่ไม่มีพนักงานประจำสถานีที่ชวนให้นึกถึงฉากหนึ่งจากอนิเมะ และดื่มด่ำทิวทัศน์ชนบทอันงดงาม

ในจังหวัดอิบารากิก็สามารถเที่ยวด้วยรถไฟท้องถิ่นแบบนี้ได้ ทว่าเส้นทางรถไฟแต่ละสายนั้นมีความโดดเด่นที่ต่างกัน บทความนี้พาไปรู้จัก 3 เส้นทางรถไฟที่โดดเด่น จาก 3 บริษัทรถไฟเอกชน ได้แก่ รถไฟฮิตาจินากะไคฮิน (Hitachinaka Seaside Railway) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตลอดเส้นทาง, รถไฟคาชิมะรินไกเท็ตสึโด (Kashima Rinkai Tetsudo) ซึ่งมีทางรถไฟยกระดับวิ่งผ่านชนบทที่มีทิวทัศน์อันน่าประทับใจ และรถไฟคันโต (Kanto Railway) ซึ่งจัดงานอีเวนท์ต่างๆ มากมาย

แต่ละเส้นทางล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว รับรองว่าจะสนุกกับการท่องเที่ยวด้วยรถไฟอย่างแน่นอน

เส้นทางรถไฟฮิตาจินากะไคฮิน สายมินาโตะ (Minato Line) มีที่เที่ยวมากมายตลอดเส้นทาง

Picture courtesy of Hitachinaka Seaside Railway

เส้นทางรถไฟฮิตาจินากะไคฮิน สายมินาโตะ ให้บริการในเมืองฮิตาจินากะ (Hitachinaka) ทางตอนกลางของจังหวัดอิบารากิ มีระยะทางยาว 14.3 กิโลเมตร วิ่งจากสถานีคัตสึตะ (Katsuta) ถึงสถานีอาจิกาอุระ (Ajigaura) สามารถเปลี่ยนสายรถไฟจากรถไฟ JR สายโจบัน (JR Joban Line) มาสายนี้ได้ที่สถานีคัตสึตะ


สายมินาโตะเป็นเส้นทางรถไฟเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานถึง 110 ปี ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหาการขาดทุนจนเกือบต้องปิดเส้นทาง แต่ในปี 2008 บริษัทรถไฟฮิตาจินากะไคฮินเข้ามาบริหารแทน รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากผู้คนและรัฐบาลในท้องถิ่นด้วย สถานการณ์ทางธุรกิจจึงดีขึ้น ทำให้เส้นทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์


จุดเด่นของสายมินาโตะคือเดินทางง่าย มีที่เที่ยวเยอะตลอดเส้นทาง

ที่เที่ยวซึ่งโดดเด่นที่สุดก็คือศาลเจ้ารถไฟฮิตาจินากะไคอุน (Hitachinaka Kaiun Tetsudo Shrine) ที่ให้พรในเรื่องการเดินทางปลอดภัยที่ตั้งอยู่ที่สถานีอาจิกาอุระ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าแห่งเดียวในโลกที่อยู่บนทางรถไฟ

ตัวศาลเจ้าแห่งนี้คือตู้รถไฟขบวนคิฮะ 222 (KIHA 222) ซึ่งแต่เดิมใช้วิ่งในเส้นทางรถไฟเหมืองถ่านหินฮาโบโรในฮอกไกโด และใช้วิ่งบนเส้นทางรถไฟสายมินาโตะตั้งแต่ปี 1971 – 2015 แม้มีการใช้งานมายาวนาน แต่ไม่เคยประสบอุบัติเหตุเลยสักครั้ง ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนมาสักการะบูชาและขอพรเพื่อความปลอดภัยทางการจราจรและอายุยืนยาว เสาโทริอิสร้างเมื่อปี 1925 โดยนำตัวรางรถไฟสายมินาโตะกลับมาใช้ใหม่

บริษัทซันเท็ตสึ โมโนกาตาริ (Santetsu Monogatari) ซึ่งดูแลศาลเจ้า จะจัดกิจกรรมสำหรับเด็กทุกวันเสาร์ ภายในตู้รถรางสีส้มด้านหลังศาลเจ้ารถไฟ มีรถไฟจำลองซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ ศาลเจ้ารถไฟเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมปีละหลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษที่ให้เข้าชมภายในได้

นอกจากสถานีอาจิกาอุระซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแล้ว สถานีนาคามินาโตะก็มีชื่อเสียงเช่นกัน อาคารสถานีรถไฟมีประวัติยาวนานถึง 110 ปี และภายในเต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค ถ้าโชคดีก็จะเจอน้องแมวประจำสถานีรถไฟรุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นที่รักของพนักงานสถานีและผู้โดยสาร

นอกจากนี้ ยังสามารถเช่าจักรยานไฟฟ้าได้ (1,000 เยน/วัน) ที่สถานีนาคามินาโตะแล้วไปลิ้มรสอาหารทะเลที่ตลาดปลานาคามินาโตะ (Nakaminato Fish Market) แหล่งของอร่อยสุดฮิต หรือไปชมทิวทัศน์อันงดงามของประตูโทริอิที่ศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ (Oarai Isosaki Shrine) ศาลเจ้ายอดนิยมในเมืองโออาไร (Oarai) หรือจะไปสนุกเพลิดเพลินที่อควาเวิลด์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโออาไรประจำจังหวัดอิบารากิ (AQUAWORLD Ibaraki Prefectural Oarai Aquarium)

สามารถคืนจักรยานในเมืองโออาไรได้หลายจุด จึงสะดวกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถยนต์

Picture courtesy of Oraga Minato Tetsudo Oendan

ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อีกหลากหลาย อย่างหาดฮิไรโซ (Hiraiso Beach) ใกล้กับสถานีฮิไรโซ (Hiraiso), จุดตัดถนนกับทางรถไฟระหว่างสถานีฮิไรโซกับสถานีโทโนยามะ (Tonoyama) ซึ่งมีทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นฉากหลัง, ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิ (Sakatsura Isosaki Shrine) ใกล้กับถานีอิโซซาคิ (Isozaki) และศาลเจ้าโฮชิอิโมะ (Hoshi-imo Shrine) ใกล้กับสถานีอาจิกาอุระ นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนขยายเส้นทางไปยังฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) จุดชมวิวสุดฮิตซึ่งอยู่ห่างจากสถานีอาจิกาอุระโดยใช้เวลานั่งรถบัสราว 10 นาที

หากต้องการตระเวนเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวนี้ ขอแนะนำให้ใช้ตั๋วฟรีพาสสายมินาโตะประเภท 1 วัน ซึ่งสามารถซื้อได้ในราคา 1,000 เยน

ที่สถานีนาคามินาโตะยังมีสินค้ามากมายวางจำหนาย เช่น พวงกุญแจป้ายชื่อสถานีรถไฟ, ที่ใส่ IC Card (บัตรเติมเงิน), เครื่องรางของศาลเจ้ารถไฟฮิตาจินากะไคอุน และสินค้าเกี่ยวกับแมวประจำสถานี ไม่ว่าชิ้นไหนก็น่ารักไปหมดเลย ใครชอบชิ้นไหนก็ซื้อไปเป็นของฝากได้เลยนะ

เส้นทางรถไฟคาชิมะรินไก สายโออาไรคาชิมะ (Oarai Kashima) ชมทิวทัศน์อันตระการตาจากเส้นทางรถไฟยกระดับ

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway

เส้นทางรถไฟคาชิมะรินไก สายโออาไรคาชิมะเป็นเส้นทางรถไฟที่เชื่อมจากสถานีมิโตะ (Mito) ในใจกลางจังหวัดไปยังสถานี JR คาชิมะจิงกู (JR Kashimajingu) โดยวิ่งผ่านสถานีสนามฟุตบอลคาชิมะ (Kashima-Soccer Stadium ซึ่งจะจอดที่นี่เฉพาะช่วงที่มีการแข่งขันเท่านั้น) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิบารากิ มีระยะทางยาวรวม 56.2 กิโลเมตร

เส้นทางรถไฟนี้มีจุดเด่นสำคัญ 2 ประการด้วยกัน

มีน้อยคนนักที่สังเกตเห็นจุดเด่นแรกนี้ นั่นก็คือไม่มีจุดตัดถนนกับทางรถไฟอื่นเลย นอกจาก 2 แห่งที่อยู่ใกล้สถานีมิโตะ

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway

จุดเด่นที่ 2 คือมีเส้นทางรถไฟยกระดับหลายช่วง ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของชนบทจากที่สูง นอกจากนี้ บนเส้นทางรถไฟสายโออาไรคาชิมะนี้ ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามราวภาพวาดหลายแห่ง ซึ่งเป็นการผสมผสานความงามของรถไฟและทัศนียภาพอันวิจิตรของชนบทเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่นักถ่ายภาพและเหล่าเท็ตสึโดโอตาคุหรือผู้ชื่นชอบรถไฟมากๆ

เช่น บริเวณรอบสถานีทสึเนซุมิ (Tsunezumi) มีทิวทัศน์อันงดงามในแต่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นภาพรถไฟสะท้อนบนผิวน้ำในนาข้าวริมทางรถไฟในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และภาพขบวนรถไฟวิ่งผ่านนาข้าวสีเขียวขจีในฤดูร้อน ซึ่่งล้วนมีมนต์เสน่ห์ทำให้ผู้คนมากมายมาชม

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway

สถานีคิตาอุระโคฮัน (Kitaura-Kohan) เป็นสถานีรถไฟที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงามตระการตาด้วย ที่นี่ก็เป็นสถานีรถไฟที่ไม่มีพนักงานประจำสถานี อยู่ใกล้กับทะเลสาบคิตาอุระ (Lake Kitaura) ตัวชานชาลาตั้งอยู่บนพื้นที่ยกระดับ สามารถชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจของทะเลสาบและทุ่งนาข้าวเบื้องล่าง

จุดถ่ายรูปอีกแห่งคือจุดชมวิวที่สูงถึง 55 เมตรบนโออาไร มารีนทาวเวอร์ (Oarai Marine Tower) ในเมืองโออาไร ช่างภาพส่วนใหญ่จะมาเก็บภาพโค้งสวยๆ ของทางรถไฟตอนขบวนรถไฟสีแดงวิ่งผ่าน

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway

นอกจากนี้ หากมีเลนส์ไกลก็จะซูมถ่ายภาพระยะใกล้ของรางรถไฟรูปตัว S ตอนที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านได้ นี่เป็นเส้นทางรถไฟที่มีเสน่ห์สุดๆ สำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพทางรถไฟ

Picture courtesy of Kashima Rinkai Railway


เส้นทางรถไฟคาชิมะรินไกมีจุดชมวิวสวยๆ ที่เหมาะกับการถ่ายรูปทางรถไฟมากมาย นอกจากนี้ ร้านค้าของสถานีโออาไรยังวางจำหน่ายสินค้าน่ารักๆ น่าสนใจอย่างพวงกุญแจ ไปรษณียบัตรรูปทิวทัศน์ทางรถไฟ และแฟ้มใส ทั้งหมดล้วนเป็นสินค้าที่คนรักรถไฟท้องถิ่นญี่ปุ่นไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

รถไฟคันโต สายโจโซ (Joso) อีเวนท์รถไฟแสนสนุก

Picture courtesy of the Kanto Railway

รถไฟคันโตเป็นเจ้าของรถไฟดีเซลที่มากถึง 55 คัน มีเส้นทางรถไฟ 2 สายที่ไม่ใช้ระบบไฟฟ้า เส้นทางรถไฟสายโจโซที่แนะนำในครั้งนี้เป็นเส้นทางเก่าแก่ มีประวัติยาวนานถึง 100 ปี วิ่งระหว่างสถานีโทริเดะ (Toride) ที่อยู่ทางใต้กับสถานีชิโมดาเตะ (Shimodate) ที่อยู่ทางตะวันตกของจังหวัดอิบารากิ มีเส้นทางยาวทั้งสิ้น 51.1 กิโลเมตร สามารถเปลี่ยนสายรถไฟจากรถไฟ JR สายโจบันที่สถานีโทริเดะ, จากรถไฟ JR สายมิโตะ (JR Mito Line) ที่สถานีชิโมดาเตะ และจากรถไฟด่วนทสึคุบะ (Tsukuba Express) ที่สถานีโมริยะ (Moriya)

รถไฟสายโชโจที่วิ่งระหว่างสถานีโทริเดะกับสถานีมิตสึไคโด (Mitsukaido) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น เป็นรถไฟรางคู่ แต่จากสถานีมิตสึไคโดจะเป็นรถไฟรางเดี่ยวเหมือนที่พบเห็นกันทั่วไปในเส้นทางรถไฟสายท้องถิ่น

Picture courtesy of the Kanto Railway

ทิวทัศน์ตลอดสองฟากฝั่งของทางรถไฟเองก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ระหว่างสถานีโทริเดะกับสถานีมิตสึไคโด ขบวนรถไฟจะวิ่งผ่านพื้นที่ซึ่งมีอาคารที่พักอาศัยอยู่มาก แต่เมื่อผ่านสถานีมิตสึไคโด ทิวทัศน์จะเป็นชนบทมากขึ้น และมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามตระการตาของเขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba) ซึ่งเป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นจากระยะไกล

Picture courtesy of the Kanto Railway

จุดเด่นที่สุดของสายโจโซคือการจัดอีเวนต์กิจกรรมต่างๆ ด้วยความร่วมมือกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นและรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว

เช่น ในเส้นทางนี้มีโรงงานผู้ผลิตเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่น 2 แห่ง ได้แก่ เบียร์อาซาฮีและเบียร์คิริน ดังนั้น จึงมีการจัด “ขบวนรถไฟเบียร์”‘ โดยร่วมมือกับบริษัททั้งสองแห่งนี้ ในขบวนรถไฟเบียร์ สามารถดื่มเบียร์ได้ไม่จำกัดนาน 3 ชั่วโมง และยังนำกับแกล้มหรือของว่างมาเองได้ด้วย เป็นกิจกรรมที่มอบประสบการณ์อันมีค่าของการ “ชิมเบียร์บนรถไฟโดยสาร”

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างรถไฟชิมสาเกหรือเหล้าญี่ปุ่นร่วมกับผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ชื่อดังของอิบารากิ โรงผลิตสาเกคิอุจิ (KIUCHI BREWING AND DISTILLING Inc.) ตลอดจนบริษัทผลิตสาเกและโรงบ่มไวน์ต่างๆ ในท้องถิ่น

Picture courtesy of the Kanto Railway

นอกจากนี้ รถไฟคันโตยังมีกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การขับรถไฟที่สานฝันให้กับเหล่าเท็ตสึโดโอตาคุหรือผู้ชื่นชอบรถไฟให้เป็นจริงด้วย กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายในขบวนตู้รถไฟที่สถานีรถไฟมิตสึไคโด โดยมี 3 ประเภท ได้แก่ ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับพิเศษ หลังจากเข้ารับฟังการอบรมเบื้องต้นแล้ว ผู้เข้าร่วมจะได้ขับรถไฟจริงเป็นระยะทางราว 150 เมตรไปรอบๆ สถานีรถไฟภายใต้คำแนะนำของพนักงานขับรถตัวจริง ข้อพึงระวัง เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ชาวต่างชาติที่เข้าร่วมต้องมีความเข้าใจภาษาญี่ปุ่นในระดับหนึ่งที่สื่อสารได้จริง

สำหรับอีเวนท์รถไฟและกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การขับรถไฟนั้น ต้องจองล่วงหน้า

Picture courtesy of the Kanto Railway


นอกจากนี้ รถไฟคันโตเองก็มีสินค้ามากมายวางจำหน่ายเช่นกัน เช่น โมเดลรถไฟ ถุงเท้า พวงกุญแจ แฟ้มใส และผ้าเช็ดหน้า ซึ่งส่วนใหญ่สร้างสรรค์โดยพนักงานของบริษัท หากมีโอกาสนั่งรถไฟคันโต อย่าลืมซื้อสินค้าไปเป็นของฝากกันนะ

ไปนั่งรถไฟสายท้องถิ่นที่อิบารากิกัน

จังหวัดอิบารากิยังมีบริษัทรถไฟและเส้นทางรถไฟท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เช่น รถไฟทสึคุบะเอ็กซ์เพรส (Tsukuba Express), รถไฟโมกะ (Moka Railway), รถไฟ JR สายมิโตะ และรถไฟสาย JR ซุยกุน (JR Suigun) แต่ละแห่งล้วนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันและสามารถสนุกเพลิดเพลินกันได้อย่างเต็มที่

สามารถอ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่ด้านล่าง
หลากหลายความสนุกที่ HITACHI SEASIDE PARK ไปชมดอกเนโมฟีลายอดฮิตในฤดูใบไม้ผลิกัน!