ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในเมืองมิโตะ 2 วัน 1 คืน : เดินเที่ยวสถานที่โด่งดังในสมัยเอโดะและสมัยเมจิ

เมืองมิโตะ (Mito) มีที่เที่ยวมากมายที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโชกุนโทคุกาวะ ผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) ในสมัยนั้นตระกูลสายรองจากตระกูลโชกุนซึ่งสามารถใช้นามสกุลโทคุกาวะได้มี 3 ตระกูล เรียกรวมกันว่า โทคุกาวะ โกซังเกะ หนึ่งในนั้นคือตระกูลมิโตะโทคุกาวะ (ตระกูลโทคุกาวะสายมิโตะ) ผู้ปกครองแคว้นมิโตะ (ปัจจุบันคือจังหวัดอิบารากิตอนกลางและตอนเหนือ) ตระกูลมิโตะโทคุกาวะทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการพัฒนาการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ทำให้การศึกษาของมิโตะเป็นที่เลื่องชื่อจนได้รับการเรียกขานว่า มิโตะกาคุ (การศึกษาแคว้นมิโตะ)
นอกจากอาคารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมิโตะกาคุ เมืองมิโตะยังมีอาคารทางประวัติศาสตร์มากมาย อย่างพิพิธภัณฑ์ที่สามารถชมการจัดแสดงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตระกูลโทคุกาวะ และโรงเรียนเก่าซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัยเมจิ (ปี 1868 - 1912) การตระเวนเที่ยวชมสถานที่เหล่านี้จะทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะและจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคสมัยใหม่มากขึ้น

2 วัน 1 คืน

วันที่ 1

station

สถานีโตเกียว (Tokyo)

train(รถไฟ) 1 ชั่วโมง 23 นาที
station

สถานีมิโตะ (Mito)

train(เดิน) 5 นาที
ซากปราสาทมิโตะ (Mito Castle Ruins)

ซากปราสาทมิโตะ (Mito Castle Ruins)

ปราสาทมิโตะคือหนึ่งในปราสาทดินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นระหว่างปลายศตวรรษที่ 12 ถึงต้นศตวรรษที่ 13
หลังจากเปลี่ยนผู้ปกครองดินแดนนี้หลายครั้ง ในปี 1609 เมื่อโยริฟุซะ โทคุกาวะถูกส่งตัวมาอยู่ที่มิโตะ ปราสาทแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พำนักของตระกูลมิโตะ โทคุกาวะ
หลังเอโดะบาคุฟุ (รัฐบาลในสมัยเอโดะ) ล่มสลายในปี 1868 ปราสาทมิโตะถูกทิ้งร้าง อาคารหลายแห่งเสียหาย ถูกทุบทำลายจากสงคราม
ปัจจุบัน คันกำแพงดิน คูน้ำ โคโดคัง (โรงเรียนไดเมียวของแคว้น) และประตูยาคุอิมง (ประตูของป้อมกลางปราสาท) ยังคงอยู่ ส่วนประตูโอเทมงและป้อมซึมิยาคุระ (ป้อมสังเกตการณ์ตรงมุมปราสาท) ของนิโนะมารุ (ปราสาทที่อยู่รอบนอกฮงมารุ) ได้รับการบูรณะตามเอกสารทางประวัติศาสตร์

อ่านเพิ่มเติม
train(เดิน) ทันที
โคโดคัง (Kodokan Mito Han School)

โคโดคัง (Kodokan Mito Han School)

โคโดคังเป็นโรงเรียนสำหรับไดเมียว (ขุนนาง) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1841 (ปีเทนโปที่ 12) โดยโทคุกาวะ นาริอาคิ เจ้าครองแคว้นลำดับที่ 9 ในนามตระกูลมิโตะ
โรงเรียนแห่งนี้มีพื้นที่ขนาด 17.8 เฮกเตอร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่เคยเป็นปราสาทมิโตะในอดีต และยังเป็นหนึ่งในโรงเรียนขุนนางที่ใหญ่ระดับต้นๆ ของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในโรงเรียนประกอบด้วย อาคารเซโจ (หอประชุม) ชิเซนโด (ห้องโถง) บุนคัน (อาคารทางวรรณกรรม) บุคัน (อาคารฝึกการต่อสู้) อิกักคุคัน (อาคารทางการแพทย์) คาชิมะจินจะ (ศาลเจ้าคาชิมะ) โคชิเบียว (วัดขงจื้อ) ศาลาฮักเคโด (อาคารหลังคาทรงแปดเหลี่ยม) บาบะ (สนามม้า) โจเรนบะ (สนามฝึกซ้อม) และอื่นๆ
แปลนการจัดวางตัวอาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามปณิธานในการก่อตั้งโรงเรียน ปัจจุบันพื้นที่ 3.4 เฮกเตอร์
บางส่วนของโคโดคังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญ

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 10 นาที
โทซุอิอัน ร้านอาหารไคเซกิสไตล์โมเดิร์นและไวน์ (Modern Kaiseki & Wine Tousuian)

โทซุอิอัน ร้านอาหารไคเซกิสไตล์โมเดิร์นและไวน์ (Modern Kaiseki & Wine Tousuian)

Tousuian Modern Kaiseki & Wine ให้บริการอาหารไคเซกิ (อาหารฟูลคอร์สสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น) สไตล์โมเดิร์นโดยใช้วัตถุดิบต่างๆ ของจังหวัดอิบารากิ
อาหารไคเซกิสไตล์โมเดิร์นเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานวิธีการปรุงอาหารแบบตะวันตก และสามารถเพลิดเพลินกับไวน์ที่คัดสรรมาอย่างดีโดยเจ้าของร้านซึ่งเป็นซอมเมอลิเยร์ (ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์)

ร้านอาหารมี 3 ชั้น โดยชั้น 1 มีพื้นที่กว้างขวางที่สัมผัสถึงความงามของธรรมชาติ มีที่นั่งแบบโต๊ะ แบบเคาน์เตอร์ และห้องกึ่งส่วนตัวให้บริการ
ชั้น 2 มีห้องจัดเลี้ยงที่รองรับแขกได้มากถึง 60 คน และชั้น 3 มีห้องส่วนตัวที่เหมาะกับงานสังสรรค์เล็กๆ ที่คนไม่เยอะ

นอกจากเมนูเฉลิมฉลองแล้ว ยังมี casual set menu (เมนูชุดสบายๆ) และเมนูสไตล์เบนโตะด้วย
นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ขอแนะนำกาแฟโทคุกาวะโชกุนของ SAZA COFFEE (กาแฟท้องถิ่นสุดฮิตที่ถือกำเนิดในเมืองฮิตาจินากะ จังหวัดอิบารากิ) ที่ตั้งชื่อตามโชกุนคนสุดท้ายของเอโดะบาคุฟุ โทคุกาวะ โยชิโนบุ (เกิดในแคว้นมิโตะ)

อ่านเพิ่มเติม
train(เดิน) 10 นาที
สวนไคราคุเอน

สวนไคราคุเอน

สวนไคราคุเอนเป็น "1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ซึ่งอีก 2 แห่งคือสวนเคนโระคุเอนที่จังหวัดคานาซาวะ และสวนโคราคุเอนที่จังหวัดโอคายามะ สวนแห่งนี้เปิดให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจเมื่อปี 1842 โดยนาริอาคิ โทคุกาวะ ไดเมียวที่ 9 ในตระกูลมิโตะ
สวนไคราคุเอนได้ปลูกต้นบ๊วย 100 สายพันธุ์ราว 3,000 ต้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม สามารถชม “เทศกาลดอกบ๊วย” แล้วต่อด้วยดอกซากุระและดอกสึสึจิหรือดอกอาซาเลียในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฮางิ (ไม้พุ่มชนิดหนึ่ง) ในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนต้นฤดูหนาวก็ได้ชมดอกนิคิซาคิซากุระ (ซากุระที่ผลิบานใน 2 ฤดู) ทำให้สวนแห่งนี้ดูสวยงามตลอดทั้งปี

อ่านเพิ่มเติม
train(เดิน) ทันที
ศาลเจ้าโทคิวะ (Tokiwa Shrine)

ศาลเจ้าโทคิวะ (Tokiwa Shrine)

ศาลเจ้าโทคิวะอยู่ติดกับสวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองมิโตะ สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่ โทคุกาวะ มิตสึคุนิ และโทคุกาวะ นาริอากิ โชกุนอันดับที่ 2 และ 9 ของตระกูลโทคุกาวะ (ปี 1603 - 1868)
อาคารกิเรตสึคัง (Giretsukan) มีภาพเขียนการประดิษฐ์ตัวอักษร และงานศิลปะของโชกุนทั้งสองท่านจัดแสดง

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 10 นาที
stay

มิโตะพลาซ่าโฮเต็ล (Mito Plaza Hotel)

วันที่ 2

มิโตะพลาซ่าโฮเต็ล (Mito Plaza Hotel)

มิโตะพลาซ่าโฮเต็ล (Mito Plaza Hotel)

Mito Plaza Hotel รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวขจี จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “บ้านพักในสวนป่า” ที่ช่วงเวลาสุดหรูเริ่มต้น ณ ที่นี่
ด้วยการออกแบบตกแต่งภายในของ John David Edison ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และการบริการสุดพิเศษที่น่าประทับใจ

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 10 นาที
พิพิธภัณฑ์โทคุกาวะ (The Tokugawa Museum)

พิพิธภัณฑ์โทคุกาวะ (The Tokugawa Museum)

สร้างขึ้นในปี 1977 โดยมูลนิธิซุยฟุ-เมโทคุไค (Suifu–Meitokukai Foundation) จัดแสดงทรัพย์สินส่วนตัวและงานเขียนโบราณต่างๆ ของไดเมียว ซึ่งคุนิยุคิ โทคุกาวะ ไดเมียว (ผู้ปกครองแคว้น) ลำดับที่ 13 ของแคว้นมิโตะได้มอบให้
มีผลงานต่าง ๆ ไปราว 30,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอิเอยาสุ โทคุกาวะ (โชกุนคนแรกของญี่ปุ่น) โยริฟุสะ โทคุกาวะ ลูกชาย และครอบครัว
และยังเป็นสถานที่เก็บต้นฉบับ "ไดนิฮอนชิ (ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น)" และเอกสารโบราณราว 30,000 ชิ้นที่รวบรวมจากทั่วประเทศด้วย
พิพิธภัณฑ์โทคุกาวะเป็นพิพิธภัณฑ์เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้จำนวนมากของไดเมียว และควรค่าแก่การเยี่ยมชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
ภาพถ่ายนี้ได้รับอนุญาตจากพิพิธภัณฑ์โทคุกาวะแล้ว

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 5 นาที / (เดิน) 20 นาที
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ

พิพิธภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ของจังหวัดอิบารากิ และเพลิดเพลินกับความงามของสวนได้ทั้ง 4 ฤดูกาล
ก่อตั้งในปี 1974 และยังเป็นหอจดหมายเหตุที่เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ของจังหวัดอิบารากิ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยูบนพื้นที่ขนาดใหญ่ 72,000 ตร.ม. มีบ้านเรือนสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) และอาคารเรียนสไตล์ตะวันตกในสมัยเมจิ (ปี 1868 - 1912)
และยังเป็นสถานที่ชมต้นแปะก๊วยสีเหลืองสดใสในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นไฮไลต์หนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) ประมาณ 5 นาที / (เดิน) 25 นาที
สวนโฮวะเอ็น (Howaen Garden)

สวนโฮวะเอ็น (Howaen Garden)

โฮวะเอ็นเป็นสวนกว้างใหญ่ อยู่ติดกับวัดเคกันจิ (Keiganji Temple สร้างเมื่อปี 1682) และเป็นจุดชมดอกอาจิไซ (ดอกไฮเดรนเยีย) ชื่อดังของเมืองมิโตะ
ว่ากันว่าในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 โทคุกาวะ มิทสึคุนิ (ปี 1628 - 1701) ผู้ปกครองแคว้นมิโตะรุ่นที่ 2 ได้ตั้งชื่อสวนแห่งนี้ว่า โฮวะเอ็น
ช่วงต้นสมัยโชวะ (ปี 1926 - 1989) อาสาสมัครในท้องถิ่นได้ปรับ ขยาย และดูแลสวนแห่งนี้จนเป็นสวนญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มีสระน้ำและเนินเขาเทียม
ในปี 1950 ทางวัดได้มอบการดูแลสวนโฮวะเอ็นให้กับทางเมืองมิโตะ จึงได้มีการปลูกดอกอาจิไซที่สวนแห่งนี้
เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน ดอกอาจิไซในสวนราว 6,000 ดอก 100 สายพันธุ์จะบานสะพรั่ง ในช่วงเวลานี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลมิโตะอาจิไซ (Mito Hydrangea Festival)

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 5 นาที / (เดิน) 20 นาที
ร้านยามากุจิโร (Mito YAMAGUCHI-ROU)

ร้านยามากุจิโร (Mito YAMAGUCHI-ROU)

YAMAGUCHI-ROU ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นอิบารากิ ปรุงอาหารในแบบดั้งเดิมด้วยสูตรอาหารจากสมัยเมจิ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนู เช่น อังโคนาเบะ (ปลาอังโคหม้อไฟ)

อ่านเพิ่มเติม
train(แท็กซี่) 10 นาที
station

สถานีมิโตะ (Mito)

train(รถไฟ) 1 ชั่วโมง 16 นาที
station

สถานีโตเกียว (Tokyo)