จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว (Tokyo) เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวออนเซ็นที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย ซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ขอแนะนำ 7 ที่พักออนเซ็นอันเงียบสงบและเต็มเไปด้วยเสน่ห์ เหมาะกับการพักค้างคืน

เสน่ห์ของออนเซ็นและที่พักแนะนำในจังหวัดอิบารากิ

ออนเซ็นหรือน้ำพุร้อน เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของญี่ปุ่น ถือเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมในการเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งว่ากันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
จังหวัดอิบารากิมีที่พักออนเซ็นหลากหลายประเภท สามารถเลือกพักได้ตั้งแต่ที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และที่พักที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ริมทะเล หรือริมแม่น้ำ
เสน่ห์อีกอย่างของจังหวัดอิบาราคิคือการเดินทางจากโตเกียวและสนามบินนาริตะ (Narita Airport) ที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ สนามบินอิบารากิยังมีเที่ยวบินตรงจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น เช่น ซัปโปโร (Sapporo) และนาฮะ (Naha) รวมถึงเกาหลีใต้และจีน ทำให้อิบารากิเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นด้วย
บทความนี้ขอแนะนำ 7 ที่พักออนเซ็นคัดสรรในจังหวัดอิบารากิ นอกจากจะมีจุดเด่นเรื่องออนเซ็นแล้ว ยังมีอาหารอร่อย และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวด้วย รับรองว่าจะทำให้ทริปท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

1. Isohara Seaside Hotel (เมืองคิตะอิบารากิ)

Picture courtesy of Isohara Seaside Hotel

Isohara Seaside Hotel (อิโซฮาระซีไซด์โฮเต็ล) ตั้งอยู่ในเมืองคิตะอิบารากิ (Kitaibaraki) ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดอิบารากิ ให้บริการห้องพักที่มองเห็นทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิก เดินเพียง 5 นาทีก็ถึงชายหาด สามารถพักผ่อนพร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์ทะเลอย่างเต็มที่
Isohara Seaside Hotel มีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งบนดาดฟ้าและบ่อน้ำชมวิวในร่ม ให้เพลิดเพลินกับออนเซ็นธรรมชาติจากแหล่งน้ำธรรมชาติส่วนบุคคล สามารถชมมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวขณะแช่ตัวสบายๆ ในออนเซ็น ว่ากันว่าออนเซ็นของที่นี่มีสรรพคุณมากมาย เช่น บรรเทาอาการปวดข้อคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการเผาผลาญ สามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นสบายๆ พร้อมทั้งผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปด้วยได้

Picture courtesy of Isohara Seaside Hotel

ที่นี่ให้บริการอาหารอิบารากิออร์แกนิกฟิวชั่น ซึ่งผสานองค์ประกอบของอาหารแต่ละประเทศเข้ากับวาโชคุ (อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม) อย่างลงตัว วัตถุดิบทั้งหมดได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ทั้งผักออร์แกนิกจากเกษตรกรท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตรกัน อาหารทะเลส่งตรงจากท่าเรือ และเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีมิโซะ น้ำสลัด แยม และอื่นๆ ที่โรงแรมทำเอง
อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์ ส่วนอาหารค่ำมีเมนูพิเศษยอดนิยมจากปลาอังโค ซึ่งให้บริการเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

Picture courtesy of Isohara Seaside Hotel

มีทั้งห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น ห้องพักสไตล์ตะวันตก และห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก ทุกห้องหันหน้าออกสู่ทะเล

บริเวณโดยรอบมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น หาดฟุตัทสึชิมะ (Futatsushima Beach) ชายฝั่งอิซูระ (Izura Coast) และ teamLab: Hidden Traces of Rice Terraces

2. ART HOTEL Kashima Central (เมืองคามิซุ)

Picture courtesy of ART HOTEL Kashima Central

ในปี 2025 ART HOTEL Kashima Central (อาร์ตโฮเต็ล คาชิมะเซ็นทรัล) ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนชื่อ และปรับโฉมใหม่ ภายในมีทั้งห้างสรรพสินค้าพร้อมร้านจำหน่ายของฝากและลานในร่ม โบสถ์ และห้องจัดเลี้ยง สามารถนั่งรถบัสด่วนวิ่งตรงจากสถานีโตเกียวมาได้ เหมาะเป็นที่พักในทริปครอบครัวและทริปทำงาน

Picture courtesy of ART HOTEL Kashima Central

ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีบริการออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ เสน่ห์ของที่นี่เป็นออนเซ็นธรรมชาติ 100% จากแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติส่วนบุคคล น้ำพุร้อนมีสีคล้ายสีชาอังกฤษ หรือชาฝรั่ง อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ว่ากันว่ามอบความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวสวย อีกทั้งยังทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นหลังอาบ รวมถึงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อย่างห้องซาวน่าและอ่างจากุซซี่

Picture courtesy of ART HOTEL Kashima Central

มีตัวเลือกการรับประทานอาหารมากมาย ทั้งเทปันยากิ อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ และบาร์ ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่ายดูทันสมัย ​​มีให้เลือกถึง 9 แบบ รวมถึงห้องที่รองรับผู้เข้าพักได้ 3 คนขึ้นไป
บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น ศาลเจ้าคาชิมะ (Kashima Jingu Grand Shrine) และศาลเจ้าอิคิสุ (Ikisu Shrine) อันเก่าแก่ ที่พักออนเซ็นแห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อนและสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม

3. Kamenoi Hotel Tsukubasan (เมืองทสึคุบะ)

Picture courtesy of Kamenoi Hotel Tsukubasan

Kamenoi Hotel Tsukubasan (คาเมะโนะอิโฮเต็ล ททสึคุบะซัง) ตั้งอยู่เชิงเขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba) ซึ่งเป็น 1 ใน “100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น” ที่นี่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 2024 โดยออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่สะดวกสบายและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายยิ่งขึ้น ในวันที่อากาศแจ่มใส สามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ได้จากล็อบบีด้วย

Picture courtesy of Kamenoi Hotel Tsukubasan

บ่อออนเซ็นแบบอินฟินิตี้ (บ่อน้ำที่ออกแบบให้มีขอบกลืนไปกับทิวทัศน์ ให้ความรู้สึกเหมือนแช่น้ำอยู่ในอากาศ) บนดาดฟ้า สามารถชมทิวทัศน์ของที่ราบคันโตในแบบพาโนรามา น้ำพุร้อนธรรมชาติของที่นี่มาจากเขาทสึคุบะ ในวันที่อากาศแจ่มใส สามารถมองเห็นเทือกเขานิกโก (Mt. Nikko) และภูเขาไฟฟูจิด้วย นอกจากนี้ ยังมีห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่และบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งบนชั้น 1 และ 2 ให้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การแช่ออนเซ็นที่หลากหลาย น้ำพุร้อนอัลคาไลน์อ่อนๆ ที่อ่อนโยนต่อผิวพรรณ เป็นที่รู้จักในชื่อ “น้ำพุร้อนเพื่อความงาม”

Picture courtesy of Kamenoi Hotel Tsukubasan

ที่นี่ให้บริการบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นและตะวันตกที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ยากิชาบูเนื้อวัวฮิตาจิ (ยากิชาบูคือการนำเนื้อวัวสไลซ์บางๆ เหมือนชาบูชาบูมาย่างบนกระทะร้อนแบบยากินิกุ) คิโนโกะนาเบะ (หม้อไฟเห็ดซึ่งใช้เห็ดที่เป็นผลิตผลของอิบารากิ) และนัตโตะคัตสึ (หมูชุปแป้งทอดสอดไส้ถั่วเน่า) สำหรับผู้ที่อยากอิ่มอร่อยเพิ่มขึ้น ที่นี่ยังมีโยนากิทันทันเม็ง (ราเม็งซุปงารสเผ็ดนิดหน่อย ราดหน้าหมูทรงเครื่องที่รับประทานในตอนดึก) ให้บริการฟรีเป็นมื้อดึกด้วย
มีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกสรร ทั้งห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น ห้องพักสไตล์ตะวันตกที่มองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามา รวมถึงห้องพักที่อนุญาตให้เอาจักรยานเข้ามาในห้องได้ และห้องพักที่อนุญาตให้นำสุนัขเข้าพักได้ ยิ่งไปกว่านั้น โรงแรมแห่งนี้ยังมีทั้งห้องพักสำหรับครอบครัวและห้องพักสำหรับเด็ก ซึ่งได้รับการรับรองสถาบันวิจัยการดูแลเด็ก (MIKI HOUSE Childcare Research Institute) ว่าเป็นที่พักที่เป็นมิตรกับเด็กทารก (Welcome Baby Inn) ทำให้ครอบครัวที่มีเด็กและทารกสามารถเข้าพักได้อย่างสบายใจ
บริเวณโดยรอบมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย อย่างเขาทสึคุบะ ศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine) และเส้นทางปั่นจักรยาน

4. Natural Hot Spring Kobai no Yu Dormy Inn Mito (เมืองมิโตะ)

Picture courtesy of Dormy Inn Mito

Dormy Inn Mito (ดอร์มี อินน์ มิโตะ) เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมธุรกิจที่มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่คึกคัก เดินจากสถานีมิโตะ (Mito) มาเพียง 12 นาที จึงสะดวกสบายในการเดินทาง เหมาะเป็นที่พักสำหรับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว

ที่ชั้นบนสุดของโรงแรม มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่กว้างขวาง สามารถชมวิวทะเลสาบเซนบะ (Lake Senba) ได้จากห้องอาบน้ำชาย และมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งด้วย น้ำพุร้อนของที่นี่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติของเมืองทาคาฮากิ (Takahagi) ในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยให้ผิวสวย ที่นี่ยังมีห้องซาวน่าและบ่อน้ำเย็น ให้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การแช่ออนเซ็นที่สมบูรณ์แบบในใจกลางเมืองด้วย

Picture courtesy of Dormy Inn Mito

อาหารเช้าให้บริการอาหารญี่ปุ่นและตะวันตกแบบบุฟเฟต์ มีอาหารจานเล็กๆ หลากหลายชนิด รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นอย่างเคนจินโซบะ (เป็นอาหารท้องถิ่นของอิบารากิ ต่างกับโซบะทั่วไปตรงน้ำซุป) และดงบุริ (ข้าวหน้าต่างๆ) ที่ใช้นัตโตะซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของท้องถิ่น ส่วนช่วงเย็นมีอาหารมื้อดึกให้บริการฟรี อย่างโยนากิโซบะ (โซบะยามดึก) เครื่องดื่มที่มีแบคทีเรียแลคโตบาซิรัส และไอศกรีม

Picture courtesy of Dormy Inn Mito

มีห้องพักให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ ห้องเตียงคู่ ห้องเตียงแฝด ห้องควีนไซส์ และห้องยูนิเวอร์แซล

บริเวณโดยรอบมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อย่างสวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ทะเลสาบเซนบะ และโคโดคัง (Kodokan Mito Domain School) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

5. Omoide Romankan, Fukuroda Hot Springs (ไดโกะมาจิ)

Picture courtesy of Omoide Romankan

Omoide Romankan (โอโมอิเดะ โรมันคัง) ที่พักแบบเหมาจ่าย (all-inclusive) ที่รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ระหว่างเข้าพัก สามารถเพลิดเพลินกับอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ไม่จำกัดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ฟุคุโรดะออนเซ็น (Fukuroda Onsen) เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในชื่อ Bijin no Yu (น้ำพุร้อนแห่งความงาม) ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่สุภาพสตรีเป็นพิเศษ
นอกจากบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งริมลำธารและบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งในสวนแล้ว ยังมีบ่อน้ำร้อนในร่มขนาดใหญ่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นที่มีเอกลักษณ์ตามฤดูกาล เช่น บ่อออนเซ็นที่มีส่วนผสมของชา และบ่อออนเซ็นที่มีแอปเปิลลอย

Picture courtesy of Omoide Romankan

ที่นี่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นและตะวันตกแบบบุฟเฟต์ซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคัดสรรมากมาย

สำหรับอาหารเช้า สามารถอิ่มอร่อยกับข้าวซึ่งเป็นผลิตผลของไดโกะมาจิและไข่จากไก่โอคุคุจิชาโมะ ส่วนอาหารเย็น อิ่มอร่อยกับสเต็กหรือปลาอายุย่างซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่น รวมทั้งเมนูเครื่องดื่มไม่อั้นต่างๆ ทั้งเบียร์สด วิสกี้ ไวน์ และสาเกท้องถิ่นที่พนักงานได้คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ บาร์ระดับพรีเมียมยังมีช่วง Happy Hour ซึ่งให้บริการเครื่องดื่มที่มีและไม่มีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ตอนเช็คอิน

Picture courtesy of Omoide Romankan

สามารถเลือกห้องพักที่มองเห็นวิวลำธารหรือห้องพักที่มองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนี้ยังมีห้องพักระดับพรีเมียที่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้งให้บริการด้วย
บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น น้ำตกทสึกิมาจิ (Tsukimachi no Taki หรือ Tsukimachi Falls) และน้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda no Taki หรือ Fukuroda Falls) อันมีชื่อเสียง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแสนสบาย ยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บแอปเปิลที่สวนแอปเปิลใกล้ๆ ได้ด้วย

6. Anko no Yado Marumitsu Ryokan (เมืองคิตะอิบารากิ)

Picture courtesy of Anko no Yado Marumitsu Ryokan

Anko no Yado Marumitsu Ryokan (อังโคโนะยาโดะ มารุมิตสึเรียวกัง) เป็นเรียวกังที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักชิม มีเมนูอาหารจากปลาอังโคเป็นเมนูดัง
ที่นี่มีบ่อน้ำร้อน 6 ชนิด บ่อที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษคือ Uchufuro (บ่อจักรวาล) ซึ่งว่ากันว่าลึกที่สุดในญี่ปุ่น และ Collagen no Yu (บ่อคอลลาเจน) ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณในด้านความงาม ที่นี่มีบรรยากาศสบายๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ

Picture courtesy of Anko no Yado Marumitsu Ryokan

เมนูเด็ดของที่นี่คือเมนูอาหารจากปลาอังโคที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นอาหารอันโอชะที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ
สามารถเพลิดเพลินกับเมนูหลากหลายชนิด ตั้งแต่เมนูคลาสิกอย่างอังโคนาเบะ (หม้อไฟปลาอังโค) ไปจนถึงเมนูที่ใช้ปลาอังโคทั้งตัว และโดบุจิรุ (อาหารพื้นบ้านในแถบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก โดยเฉพาะในจังหวัดอิบารากิ เน้นใช้เนื้อปลาอังโคและตับปลาอังโค) ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน

Picture courtesy of Anko no Yado Marumitsu Ryokan

ห้องพักทุกห้องตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น กว้างขวาง สามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย มี 2 แบบ ได้แก่ ห้องพักขนาด 12.5 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 20 ตารางเมตร) และห้องพักขนาด 16 เสื่อทาทามิ (ประมาณ 26 ตารางเมตร) พร้อมเตียงแฝด

ติดกับเรียวกังแห่งนี้ยังมีจุดชมวิว เช่น ท่าเรือประมงฮิราคาตะ (Hirakata Fishing Port) ชายฝั่งอิซูระ (Izura Coast) และ teamLab: Hidden Traces of Rice Terraces เมื่อเข้าพักที่ Marumitsu Ryokan ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็น อาหารท้องถิ่นรสเลิศ และการเดินเล่นชมวิวสบายๆ ได้ทั้งหมดในที่เดียว

7. Isozaki Onsen Hotel New Hakuaki (เมืองฮิตาจิ)

Picture courtesy of Isozaki Onsen Hotel New Hakuaki

Isozaki Onsen Hotel New Hakuaki (โรงแรมอิโซซากิออนเซ็น นิวฮาคุอากิ) ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบหันหน้าไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นที่พักแนะนำสำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย

จากห้องพักและบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตาของมหาสมุทรแปซิฟิก ออนเซ็นของที่นี่เป็นน้ำพุร้อนโซเดียมคลอไรด์ที่หายาก ซึ่งว่ากันว่าช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นจนถึงภายใน จึงได้รับความนิยมมากในเหล่าสุภาพสตรี

Picture courtesy of Isozaki Onsen Hotel New Hakuaki
* เป็นภาพตัวอย่างประกอบบทความเท่านั้น เมนูจริงอาจมีความแตกต่าง

ที่นี่ให้บริการอาหารซึ่งเน้นแนวคิดการผลิตในท้องถิ่นเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น (LPLC; Local production for Local consumption) โดยใช้อาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดีและวัตถุดิบตามฤดูกาล อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์ ส่วนอาหารเย็นเป็นอาหารไคเซกิ (อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมระดับหรูที่เสิร์ฟเป็นคอร์ส) สีสันสดใส

Picture courtesy of Isozaki Onsen Hotel New Hakuaki

มีห้องพักให้บริการ 10 แบบ ทั้งห้องพักที่มองเห็นวิวอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก และห้องพักระดับพรีเมียมพร้อมบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งที่ทำจากไม้ฮิโนกิ (ไม้สนญี่ปุ่น)

บริเวณใกล้เคียงมีฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) และศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิ (Sakatsura Isosaki Shrine) ในฤดูร้อนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ อย่างการว่ายน้ำที่หาดอาจิกาอุระ (Ajigaura Beach)