Visitเที่ยวชม

อิบารากิเหนือ

เมืองฮิตาจิโอมิยะ

Nishinouchi Paper Kami no Sato

Nishinouchi Paper Kami no Sato

ร้านจำหน่ายกระดาษญี่ปุ่น Nishinouchi Paper Kami no Sato ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1970 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำกระดาษนิชิโนะอุจิ ด้วยมือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผูกขาดการจำหน่ายของแคว้นมิโตะ ซึ่งปกครองจังหวัดอิบารากิตอนกลางและตอนเหนือ ในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ได้รับการยกย่องว่าเป็นทรัพย์สมบัติที่สำคัญในเอโดะ (ชื่อเดิมของโตเกียว) กระดาษนิชิโนะอุจิ ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 350 ปี ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของชาติและจังหวัด มีจุดเด่นคือ การใช้วัตถุดิบจาก "ต้นโคโซะ (ต้นปอสา)" ที่ผลิตในเมืองฮิตาจิและไดโกะ ด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในเวลากลางวันและกลางคืน ทำให้ได้เส้นใยที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรงและทนน้ำ กระดาษที่ทำจากเส้นใยปอสาที่บางและสั้นนี้จะทนทานต่อน้ำและการดัดงอได้ดี
ร้าน Nishinouchi Paper Kami no Sato จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงกระดาษญี่ปุ่นทำมือ ของตกแต่งภายใน สินค้าเบ็ดเตล็ด และเครื่องประดับ นอกจากนี้ ยังมี "ห้องวัสดุคามิโนะซาโตะวาชิ'' แกลเลอรีจัดแสดงเอกสารที่ทำจากกระดาษนิชิโนะอุจิ รวมทั้งเวิร์คช็อปสัมผัสประสบการณ์…

ชอปปิ้ง

พิพิธภัณฑ์ / สวนสัตว์ / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

งานหัตถกรรมพื้นบ้าน / โรงหมักสาเก

อิบารากิกลาง

เมืองมิโตะ

สวนโฮวะเอ็น (Howaen Garden)

สวนโฮวะเอ็น (Howaen Garden)

โฮวะเอ็นเป็นสวนกว้างใหญ่ อยู่ติดกับวัดเคกันจิ (Keiganji Temple สร้างเมื่อปี 1682) และเป็นจุดชมดอกอาจิไซ (ดอกไฮเดรนเยีย) ชื่อดังของเมืองมิโตะ
ว่ากันว่าในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 โทคุกาวะ มิทสึคุนิ (ปี 1628 - 1701) ผู้ปกครองแคว้นมิโตะรุ่นที่ 2 ได้ตั้งชื่อสวนแห่งนี้ว่า โฮวะเอ็น
ช่วงต้นสมัยโชวะ (ปี 1926 - 1989) อาสาสมัครในท้องถิ่นได้ปรับ ขยาย และดูแลสวนแห่งนี้จนเป็นสวนญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มีสระน้ำและเนินเขาเทียม
ในปี 1950 ทางวัดได้มอบการดูแลสวนโฮวะเอ็นให้กับทางเมืองมิโตะ จึงได้มีการปลูกดอกอาจิไซที่สวนแห่งนี้
เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน ดอกอาจิไซในสวนราว 6,000 ดอก 100 สายพันธุ์จะบานสะพรั่ง ในช่วงเวลานี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลมิโตะอาจิไซ (Mito Hydrangea Festival)

สวนและธรรมชาติ

วัดและศาลเจ้า

อิบารากิกลาง

เมืองมิโตะ

ซากปราสาทมิโตะ (Mito Castle Ruins)

ซากปราสาทมิโตะ (Mito Castle Ruins)

ปราสาทมิโตะคือหนึ่งในปราสาทดินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นระหว่างปลายศตวรรษที่ 12 ถึงต้นศตวรรษที่ 13
หลังจากเปลี่ยนผู้ปกครองดินแดนนี้หลายครั้ง ในปี 1609 เมื่อโยริฟุซะ โทคุกาวะถูกส่งตัวมาอยู่ที่มิโตะ ปราสาทแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พำนักของตระกูลมิโตะ โทคุกาวะ
หลังเอโดะบาคุฟุ (รัฐบาลในสมัยเอโดะ) ล่มสลายในปี 1868 ปราสาทมิโตะถูกทิ้งร้าง อาคารหลายแห่งเสียหาย ถูกทุบทำลายจากสงคราม
ปัจจุบัน คันกำแพงดิน คูน้ำ โคโดคัง (โรงเรียนไดเมียวของแคว้น) และประตูยาคุอิมง (ประตูของป้อมกลางปราสาท) ยังคงอยู่ ส่วนประตูโอเทมงและป้อมซึมิยาคุระ (ป้อมสังเกตการณ์ตรงมุมปราสาท) ของนิโนะมารุ (ปราสาทที่อยู่รอบนอกฮงมารุ) ได้รับการบูรณะตามเอกสารทางประวัติศาสตร์

ปราสาทและสถานที่ทางประวัติศาสตร์

อิบารากิใต้

เมืองอุชิกุ

อุชิคุชาโตว์ (Ushiku Chateau)

อุชิคุชาโตว์ (Ushiku Chateau)

โรงบ่มไวน์แห่งนี้เปิดเมื่อปี 1903 โดดเด่นด้วยอาคารอิฐแดงอันงดงามในสไตล์ยุโรปผสมญี่ปุ่นซึ่งได้รับความนิยมในสมัยนั้น ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ในฐานะโรงบ่มไวน์แห่งแรกๆ ในญี่ปุ่นที่ผลิตไวน์เต็มรูปแบบ

ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งร้านอาหารซึ่งปรับปรุงมาจากโรงเก็บไวน์เก่าแก่กว่า 100 ปี สร้างจากอิฐแดง สามารถเพลิดเพลินกับอาหารพร้อมไวน์สุดอร่อย รวมถึงร้านจำหน่ายของฝากซึ่งจำหน่ายไวน์ ขนม และอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงเครื่องมือและถังไม้ที่ใช้เก็บไวน์ในสมัยนั้น ขวดไวน์ที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคย รวมทั้งเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับประวัติของ Ushiku Chateau และการผลิตไวน์ของญี่ปุ่น อย่างโปสเตอร์และรูปถ่าย ที่นี่ยังมีน้ำพุ ป่า และสวนดอกไม้ ที่สามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นหรือสนุกกับการทำบาร์บีคิวได้

ชอปปิ้ง

ปราสาทและสถานที่ทางประวัติศาสตร์

งานหัตถกรรมพื้นบ้าน / โรงหมักสาเก

อิบารากิกลาง

เมืองฮิตาจินากะ

โนโซมิออนเซ็น (Ajigaura Onsen Nozomi)

โนโซมิออนเซ็น (Ajigaura Onsen Nozomi)

โนโซมิออนเซ็นในย่านอาจิกาอุระออนเซ็น (Ajigaura Onsen) ใช้แหล่งน้ำพุร้อนส่วนตัวที่ขุดจากใต้ดินลึก 1,504 เมตร น้ำซึ่งประกอบด้วยน้ำทะเลโบราณและมีความเข้มข้นและบ่มเพาะมานานนับพันปีนั้นเป็นสิ่งที่หายากและมีคุณค่าในญี่ปุ่น นอกจากนี้ น้ำพุร้อนยังมีปริมาณของแร่ธาตุต่างๆ มากกว่ามาตรฐานทั่วไปถึง 26 เท่า! ในญี่ปุ่นมีน้ำพุร้อนโซเดียมคลอไรด์หลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่ว่ากันว่ามีความเข้มข้นต่ำ น้ำพุร้อนนี้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียจึงช่วยให้บาดแผล โรคทางผิวหนัง และโรคผิวหนังอักเสบมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นประสาทและปวดข้อได้ จึงได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าที่มาใช้บริการมากๆ ทว่าหากแช่ออนเซ็นก็อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยนะ
ที่นี่มีออนเซ็นหลากหลากชนิดและบ่อน้ำร้อนหลากหลายแบบให้เพลิดเพลิน นอกจากบ่อน้ำร้อนในร่ม ในพื้นที่บ่อน้ำร้อนแบบเปิดโล่งยังมีบ่อแบบหิน บ่อไม้สนฮิโนกิ บ่อที่มีกลิ่นหอม และบ่อสไตล์ถ้ำ ออนเซ็นแห่งนี้ยังอยู่ติดหาดอาจิกาอุระ (Ajigaura Beach) สามารถชมวิวสวยๆ ของทะเลได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวพร้อมบ่อน้ำพุร้อน ห้องพักผ่…

อื่น ๆ

อิบารากิกลาง

เมืองฮิตาจินากะ

ร้านคุโรซาวะโชยุ (Kurosawa Soy Sauce)

ร้านคุโรซาวะโชยุ (Kurosawa Soy Sauce)

"นับตั้งแต่คุโรซาวะโชยุเปิดกิจการเมื่อปี 1905 ก็ได้ผลิตโชยุโดยยังคงรักษาวิธีการดั้งเดิมไว้ ด้วยการใช้ถังไม้อายุมากกว่า 100 ปีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งยีสต์และแลคโตบาซิลลัสที่เติบโตเฉพาะในโรงหมัก สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยทักษะและประสบการณ์อันยาว Hishiogura โชยุไซชิโคมิโชยุ (โชยุที่หมัก 2 รอบโดยใช้โชยุแทนน้ำเกลือหมักอีกครั้ง) เป็นผลิตภัณฑ์สุดฮิต เหมาะสำหรับซาชิมิและการทำน้ำจิ้ม Awazuke น้ำดองผักสำเร็จรูปที่ใช้ทำผักดองญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน และยังมีผลิตภัณฑ์สุดฮิตอื่นๆ อีกหลากหลายรสชาติ เช่น ซอสพอนซึ (เครื่องปรุงรสแบบญี่ปุ่นที่ทำจากน้ำผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลส้ม) เมนทสึยุ (ทสึยุหรือน้ำซุปเข้มข้นที่ใช้รับประทานกับเมนูประเภทเส้นอย่างอุด้งและโซบะ) และซอสยากินิกุ (ซอสที่ใช้สำหรับทำยากินิกุหรือบาร์บีคิว) นอกจากนี้ยังมีทัวร์ชมโรงงานที่ต้องจองล่วงหน้าด้วย
ภายในบริเวณเดียวกัน มีร้านจำหน่ายสินค้าในโกดังและ KURA CAFE คาเฟ่ที่ให้บริการขนมหวานที่รังสรรค์รสชาติแสนอร่อยจากโชยุและเชื้อหมักโคจิ โดยเฉพาะ 2 เมนูสุดฮิตอย่างซอฟต์ครีมโชยุและซอฟต์ครีมโชยุอามาซาเกะที่ท็อปปิ้งด…

ชอปปิ้ง

อื่น ๆ

งานหัตถกรรมพื้นบ้าน / โรงหมักสาเก

อิบารากิกลาง

เมืองฮิตาจินากะ

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิ (Sakatsura Isosaki Shrine)

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิ (Sakatsura Isosaki Shrine)

ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิสร้างเมื่อปี 856 เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อธิษฐานขอพรให้หายป่วยและอายุยืนยาว ปัจจุบันยังเป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าชื่อดังที่ให้โชคลาภ ซึ่งมีผู้สักการะมากมายที่ถูกรางวัลลอตเตอรี ที่นี่เป็นศาลเจ้าพี่น้องที่สร้างขึ้นพร้อมกับศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) ในเมืองโออาไรที่อยู่ใกล้เคียง (โด่งดังจากทิวทัศน์อันงดงามของเสาโทริอิบนโขดหินที่ยื่นออกไปในทะเล) ศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิสักการะเทพเจ้าโอคุนินุชิโนะมิโคโตะ เทพเจ้าผู้สร้างประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ศาลเจ้าซาคัตสึระ อิโซซาคิสักการะเทพเจ้าซุคุนาบิโกนะโนะมิโคโตะซึ่งว่ากันว่าได้ร่วมกับเทพเจ้าโอคุนินุชิโนะมิโคโตะในการสร้างประเทศญี่ปุ่น
เสน่ห์อีกอย่างของศาลเจ้าแห่งนี้คืออุโมงค์ต้นไม้ที่งดงามซึ่งมีต้นสึบากิ (ต้นคามิเลีย) และต้นทาบุโนกิอายุกว่า 300 ปีที่ขึ้นหนาทึบเต็มสองข้างทางของทางเข้าศาลเจ้า ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของจังหวัดอิบารากิ ที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้เหล่านี้เป็นจุดถ่ายรูปสวยในบรรยากาศที่เหมือนหลุดเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง ติดกับทางเดินเข้าศาลเจ้ามีเสาโทริอิที่มองเห…

วัดและศาลเจ้า

อิบารากิกลาง

เมืองฮิตาจินากะ

ศาลเจ้าโฮชิอิโมะ (Hoshiimo Shrine) / ศาลเจ้าโฮริเดะ (Horide Shrine)

ศาลเจ้าโฮชิอิโมะ (Hoshiimo Shrine) / ศาลเจ้าโฮริเดะ (Horide Shrine)

ศาลเจ้าโฮริเดะและศาลเจ้าโฮชิอิโมะตั้งอยู่บนเนินที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของชายฝั่งอาจิกาอุระ (Ajigaura Beach) "โฮริเดะ" มาจากคำว่า "โฮริดะซุ" ที่แปลว่า "ขุด" ว่ากันว่า สร้างขึ้นในปี 1663 เมื่อคนในท้องถิ่นขุดพบชุดเกราะ หอก ดาบ และอื่นๆ ในรอบๆ บริเวณแห่งนี้ จึงสร้างศาลเจ้าเล็กๆ เพื่อสักการะสิ่งเหล่านั้น ไม่กี่ปีต่อมา โทคุกาวะ มิตสึคุนิ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นผู้ปกครองแคว้นมิโตะ (ปัจจุบันคือพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของอิบารากิ) ในสมัยนั้น ได้มอบกระจกโบราณเพื่อเป็นวัตถุมงคลให้แก่ศาลเจ้า ที่นี่จึงกลายเป็นโกะชินไต (ที่สถิตของเทพ) และจากการขุดพบกระจกและโบราณวัตถุต่างๆ ในตอนแรก จึงมีการเรียกขานศาลเจ้านี้ว่า "โฮริเดะ" ศาลเจ้าแห่งนี้สักการะเทพฮาจิมัน ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
ต่อมาในปี 2019 ได้มีการสร้างศาลเจ้าโฮชิอิโมะ ศาลเจ้าหลังใหม่ในบริเวณศาลเจ้าโฮริเดะ ชื่อ "โฮชิอิโมะ" นี้มีที่มาจากการที่จังหวัดอิบารากิเป็นแหล่งผลิตโฮชิอิโมะ (มันเทศตากแห้ง) รายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเมืองฮิตาจินากะ (Hitachinaka) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแห่งนี้ ก็เป็นพื้นที่ซึ…

วัดและศาลเจ้า

อิบารากิตะวันออก

เมืองนาเมกาตะ

Lapoppo Namegata Farmers Village(らぽっぽ なめがたファーマーズヴィレッジ)

Lapoppo Namegata Farmers Village(らぽっぽ なめがたファーマーズヴィレッジ)

●เปิดประสบการณ์กับสวนสนุกเชิงเกษตรที่เมืองนาเมกาตะ จังหวัดอิบารากิ
สวนสนุกเชิงเกษตรที่นำอาคารเรียนเก่ามาปรับปรุงใหม่ โดยมีแนวคิด “Farm to the Table” วัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากแปลงผักสู่โต๊ะอาหาร เป็นสถานที่ซึ่งสามารถลิ้มลองอาหาร สนุกสนานและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำฟาร์มที่โรงงานมันเทศ ร้านค้าฟาร์ม และร้านอาหารของอุทยาน ตลอดจนการสัมผัสประสบการณ์การทำฟาร์ม
●พักใจกับ Farm Gramping
เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในฟาร์มอันหรูหรา รับประทานผักที่เก็บสดๆ มีที่พักให้เลือก 2 รูปแบบ คือ แบบตั้งแคมป์ที่จะได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจจากการชมท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ และแบบบ้านพักพร้อมเครื่องปรับอากาศที่สะดวกสบายสไตล์เทเล เหมาะกับการหลีกหนีชีวิตที่วุ่นวายมาพักผ่อนกับคนที่คุณรัก ครอบครัว และเพื่อนๆ นอกจากนี้ ยังมีออนเซ็นใกล้เคียงบนชายฝั่งของทะเลสาบคิตาอุระ (Lake Kitaura) ให้คุณได้อาบน้ำพุร้อนพร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบ

ชอปปิ้ง

อิบารากิเหนือ

เมืองฮิตาจิโอตะ

สะพานแขวนริวจิน

สะพานแขวนริวจิน

สะพานแขวนริวจินอตั้งตระหง่านเหนือเขื่อนริวจิน (Ryujin Dam) โดยน้ำจากเขื่อนไหลผ่านหุบเขารูปตัววีที่งดงาม สะพานยาวทั้งสิ้น 375 เมตร เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น จากสะพานแขวนจะมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่สวยงามยิ่งได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
ในฤดูใบไม้ผลิมีการตกแต่งธงปลาคาร์ฟอันเพื่อขอพรให้กับเด็ก ส่วนฤดูใบไม้ร่วงมีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม ยงมีการกระโดดบันจีจัมพ์ที่ความสูง 100 เมตร ซึ่งถือว่ามีความสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

สวนและธรรมชาติ

อิบารากิกลาง

เมืองมิโตะ

สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden)

สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden)

สวนไคราคุเอนเป็น "1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ซึ่งอีก 2 แห่งคือสวนเคนโระคุเอนที่จังหวัดคานาซาวะ และสวนโคราคุเอนที่จังหวัดโอคายามะ สวนแห่งนี้เปิดให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจเมื่อปี 1842 โดยนาริอาคิ โทคุกาวะ ไดเมียวที่ 9 ในตระกูลมิโตะ
สวนไคราคุเอนได้ปลูกต้นบ๊วย 100 สายพันธุ์ราว 3,000 ต้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม สามารถชม “เทศกาลดอกบ๊วย” แล้วต่อด้วยดอกซากุระและดอกสึสึจิหรือดอกอาซาเลียในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฮางิ (ไม้พุ่มชนิดหนึ่ง) ในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนต้นฤดูหนาวก็ได้ชมดอกนิคิซาคิซากุระ (ซากุระที่ผลิบานใน 2 ฤดู) ทำให้สวนแห่งนี้ดูสวยงามตลอดทั้งปี

สวนและธรรมชาติ

ปราสาทและสถานที่ทางประวัติศาสตร์