Visit

ย่านร้านค้าคูจิระกาโอกะ

“ย่านร้านค้าคูจิระกาโอกะ” ที่มีบรรยากาศเมืองเก่าชวนคิดถึง เป็นย่านที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ย่านร้านค้ากว้างใหญ่ร่วม 600 เมตรบนเนินสูงในเมืองฮิตาจิโอตะ ท่ามกลางทิวทัศน์ที่มีร้านค้าตั้งแต่ยุคเมจิ (1868-1912) กับยุคโชวะ (1926-1989) หน้าตาชวนหวนคิดถึงวันวาน แต่ก็มีบางร้านที่ตกแต่งแบบปัจจุบันอยู่ด้วย
ภายในย่านเมืองที่เป็นตรอกอยู่บนเนินเป็นเอกลักษณ์ มีทั้งร้านขายของกระจุกกระจิกแบบที่วัยรุ่นชอบ ร้านขนมญี่ปุ่น ร้านขนมโบราณ (ที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ขายราคาถูกในสมัยก่อน) มีให้เลือกซื้อหลายอย่าง เดินไปกินไปก็สนุกดี และที่จุดศูนย์กลางย่านนี้ มี “ร้านคูจิระ” ที่สินค้าเด็ดดังไม่ใช่เจ้าปลา “ไทยากิ” แต่เป็นปลาวาฬ "คูจิระยากิ" (ไทยากิ คือขนมญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งสาลีสอดไส้ครีมรสต่าง ๆ ตัวขนมจะเป็นรูปปลาไท)

มิโตะไดชิ โรคุจิโซจิ

มิโตะไดชิ โรคุจิโซจิ วัดโบราณที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 807 เป็นวัดดังในเรื่องการขอลูกและขอพรให้ตั้งครรภ์และคลอดอย่างปลอดภัยมาแต่โบราณ โดยเฉพาะหลังเด็กคลอดได้ประมาณ 30 วัน ที่ญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียม “โอะมิยะไมริ” คือการพาเด็กไปไหว้พระขอพรให้โชคดีและมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งจะมีพ่อแม่จากฝั่งคันโตนิยมพาลูกมาที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก
วัดนี้เป็นวัดที่มีสุสานประจำตระกูลโชกุนกับตระกูลมิโตะ โทคุกาวะ เป็นพิกัดชมซากุระสวยอันดับต้น ๆ ในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน มีต้นซากุระชิดาเระอายุร่วม 200 ปีที่ว่ากันว่าเป็นลูกหลานต้นซากุระที่โทคุกาวะ มิทสึคุนิ เจ้าแคว้นมิโตะองค์ที่ 2 เคยชื่นชม พร้อมกับซากุระชิดาเระต้นอื่นอีก บานสะพรั่งพร้อมกัน 50 ต้น นอกจากนี้ ยังมีต้นสนสุงิใหญ่อายุร่วม 1,000 ปีกับ ต้นแปะก๊วยใหญ่ เป็นวัดที่สวยงามมากและมีต้นไม้ดอกไม้สร้างสีสันงดงามประดับวัดในแต่ละฤดูกาล
สมบัติสำคัญทั้งหลายของวัดได้รับการบันทึกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมทั้งของจังหวัดอิบารากิและของประเทศญี่ปุ่น

สวนพฤกษศาสตร์ทสึคุบะ (Tsukuba Botanical Garden)

สวนพฤกษศาสตร์ทสึคุบะ (Tsukuba Botanical Garden) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา ตั้งอยู่ในเมืองทสึคุบะ (Tsukuba) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองแห่งการวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น

ในพื้นที่อันกว้างใหญ่จัดแสดงพืชพรรณไม้ต่างๆ ของญี่ปุ่นและพืชพรรณไม้หายากจากทั่วโลก ทำให้ได้เรียนรู้ความหลากหลายและวิวัฒนาการของพืชพรรณต่างๆ
สามารถสัมผัสความลึกลับของธรรมชาติ และความหลากหลายของพืชพรรณกว่า 3,000 ชนิดที่เติบโตในสภาพอากาศต่างๆ ทั้งเขตร้อน เขตแห้งแล้ง และเขตอบอุ่น

สวนแห่งนี้ยังมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเวิร์กช็อปด้วย มีกิจกรรมมากมายที่เด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้ ที่ร้านค้าในสวนยังมีหนังสือนำเที่ยว ไปรษณียบัตรพร้อมรูปภาพต้นไม้ ที่คั่นหนังสือ กระดาษโน๊ต และหนังสือเกี่ยวกับพืช รวมทั้งสินค้าออริจินัลของที่นี่ให้เลือกซื้อด้วย

สวนพฤกษศาสตร์ทสึคุบะเป็นที่เที่ยวแนะนำซึ่งสามารถสนุกกับการเรียนรู้และผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน

ฟาร์มฟุคาซาคุ (Fukasaku Farm)

ฟาร์มฟุคาซาคุในจังหวัดอิบารากิเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะได้เพลิดเพลินกับผลไม้สดๆ แสนอร่อย

กิจกรรมสุดฮิตของฟาร์มคือการเก็บผลไม้ในแต่ละฤดูกาล อย่างเมลอนและสตรอเบอร์รี่ที่หวานและอร่อย ซึ่งปลูกในฟาร์มซึ่งใช้เทคนิคการทำฟาร์มที่มีเอกลักษณ์
ในฤดูใบไม้ร่วงยังสามารถสนุกกับกิจกรรมขุดมันเทศซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นของจังหวัดอิบารากิ ที่นี่จึงเป็นฟาร์มที่จะได้ดื่มด่ำกับรสชาติอันโอชะของอิบารากิอย่างเต็มที่

ที่ฟาร์มยังมีร้านจำหน่ายสินค้าของฟาร์ม ร้านจำหน่ายเค้กขอนไม้หรือเค้กบามคูเฮน (Baumkuchen) ที่ใช้ผักและผลไม้ของฟาร์ม ร้านคาเฟ่และขนมหวาน รวมถึงร้านจำหน่ายไอศกรีมเจลาโต้ที่อยู่ติดกัน ซึ่งได้รับความนิยมมากขนาดต้องต่อคิวซื้อ
เทคนิคการทำฟาร์ม พืชผล และผลิตภัณฑ์อาหารของฟาร์มเป็นที่ยอมรับอย่างสูง และได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขันต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับมาเที่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง

ร้านมันหวาน ไดมารุยะ (Daimaruya Hoshiimo Shop)

Daimaruya เปิดกิจการเมื่อปี 1897 และตลอดเวลามากกว่า 120 ปีได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากวัตถุดิบปลอดสารปรุงแต่ง เพื่อดึงรสชาติธรรมชาติของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด

ภายในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมันเทศเป็นหลักอย่างโฮชิอิโมะ (มันหวาน) รวมทั้งไอศกรีมเจลาโต้ (ไอศกรีมสไตล์อิตาเลียน) หลากหลายรสชาติ เช่น รสมันเทศ หรือรสเมลอนซึ่งเป็นผลไม้ชื่อดังของอิบารากิ ที่ปราศสารปรุงแต่งและไม่ใส่สารกันบูดใดๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ ที่นี่ยังจำหน่ายรักเกียวดอง (หัวต้นหอมดอง) น้ำผึ้ง อิโมะโชจู (โชจูมันเทศ) ซึ่งเป็นสินค้าออริจินัลของที่นี่ เหล้าบ๊วย และอื่นๆ ด้วย ที่นี่จึงเหมาะในการแวะซื้อของฝาก

Daimaruya ยังจัดกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำโฮชิอิโมะโดยต้องจองล่วงหน้า อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ

สนามบินอิบารากิ (Ibaraki Airport)

สนามบินอิบารากิเป็นสนามบินภูมิภาคที่สะดวกสบาย

มีเที่ยวบินระหว่างประเทศไปไทเป (Taoyuan International Airport) และเที่ยวบินภายในประเทศ 4 เส้นทาง ได้แก่ ซัปโปโร (New Chitose Airport) โกเบ ฟุกุโอกะ และนาฮะ รวมถึงเที่ยวบินต่อเครื่อง (Connecting Flight) ไปยังนางาซากิ คาโกชิมะ และเกาะมิยาโกะ (Miyako Shimojishima Airport)
สนามบินมีขนาดกะทัดรัด เดินไม่ไกล ใช้บริการสะดวก

สนามบินอยู่ในทำเลสะดวกเดินทางไปง่าย สามารถนั่งรถบัสจากสถานีโตเกียวไปได้ในเวลาราว 100 นาที จึงเหมาะกับการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ
มีรถบัสให้บริการเส้นทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหลักในจังหวัดอิบารากิ (สถานีมิโตะและสถานีอิชิโอกะ)

ขอแนะนำให้เช่ารถที่สนามบิน ซึ่งจังหวัดอิบารากิกำลังจัดแคมเปญพิเศษเช่ารถได้ในราคาตั้งแต่ 1,000 เยนขึ้นไป กรณีพักค้างคืนในจังหวัด 1 คืนขึ้นไป เนื่องจากจังหวัดอิบารากิมีขนาดใหญ่มาก การเช่ารถขับจะช่วยให้ตระเวนเที่ยวอิบารากิและบริเวณโดยรอบสะดวกยิ่งขึ้น
* อ้างอิงจากข้อมูลสภาพการจราจร เส้นทางรถบัส และแคมเปญต่างๆ ณ เดือนกันยายน 2024 สามารถ…

สวนแอปเปิลฮิเมกาทากิ (Himegataki Apple Orchards)

ไดโกะมาจิตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิบารากิ การปลูกแอปเปิลที่ใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศของที่นี่เจริญเติบโตได้ดี แอปเปิลที่ปลูกในพื้นที่นี้เรียกว่า แอปเปิลโอคุคุจิ มีความชุ่มฉ่ำและเต็มไปด้วยความหวาน

หนึ่งในสวนผลไม้ที่ปลูกแอปเปิลโอคุคุจิคือ สวนแอปเปิลฮิเมกาทากิซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำคูจิ (Kuji River) และน้ำตกทสึกิมาจิ (Tsukimachi Falls) สวนแห่งนี้ปลูกแอปเปิลหลากสายพันธุ์อย่างพิถีพิถันโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีใดๆ

ในฤดูใบไม้ร่วงมีกิจกรรมเก็บแอปเปิลที่สามารถเพลิดเพลินกับแอปเปิลแกนน้ำผึ้ง (ความอร่อยเลิศที่มีอยู่เฉพาะในแอปเปิลสดเท่านั้น) หวานฉ่ำที่เพิ่งเก็บมาสดๆ ได้ทันที สามารถนำแอปเปิลที่เก็บกลับบ้านได้ด้วย

* สำหรับข้อมูลการเปิดให้บริการ กรุณาตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการ และอื่นๆ

โรงเรียนประถมอุวาโอกะเก่า (Former Uwaoka Elementary School)

โรงเรียนประถมอุวาโอกะเก่าสร้างขึ้นเมื่อ 1879 อาคารเรียนไม้ย้อนยุคทำให้ที่นี่เป็นโรงเรียนประถมที่มีเสน่ห์
แม้โรงเรียนจะปิดตัวลงในปี 2001 แต่อาคารเรียนได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี สามารถเยี่ยมชมภายในได้ การมองดูกระดานดำ โต๊ะ และเก้าอี้เก่าๆ ที่เรียงรายตามห้องเรียนและโถงทางเดิน ทำให้รู้สึกราวกับเดินทางย้อนเวลากลับไป

อาคารเรียนหลังนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะสถานที่ถ่ายทำละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นต่างๆ เช่น "ฮานาโกะ นักแปลสาวหัวใจแกร่ง" และ "โอฮิซามะ" ช่วงที่แนะนำเป็นพิเศษคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ภูเขาโดยรอบเปลี่ยนเป็นสีแดง และช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งงดงาม ปกติโรงเรียนเปิดเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ในช่วงดังกล่าวสามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน

วัดเออิเก็นจิ (Eigenji Temple) รู้จักกันในชื่อวัดโมมิจิ

วัดเออิเก็นจิ (Eigen-ji Temple) สร้างเมื่อปี 1446 เป็นที่สักการะเบ็นไซเท็น เทพเจ้าแห่งศิลปะการแสดงและดนตรี ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่นี่ยังได้รับการเรียกขานว่า "โมมิจิเดระ" ซึ่งแปลว่า "วัดแห่งใบไม้เปลี่ยนสี" เนื่องจากสามารถชมโมมิจิหรือใบเมเปิลที่สวยงาม

ทุกปี ต้นเมเปิลที่วัดเออิเก็นจิจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่ราวปลายเดือนตุลาคม และจะสวยงามที่สุดในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ต้นเมเปิลที่ปกคลุมทั่ววัดทำให้เกิดทิวทัศน์อันยอดเยี่ยม และทำให้ที่นี่กลายเป็นที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยว

วัดเออิเก็นจิตั้งอยู่บนเนินเขา จึงสามารถชมทิวทัศน์บ้านเมืองของไดโกะมาจิที่อยู่เบื้องล่างทั้งหมดได้

ร้านคิจิอัน (Kijian)

จังหวัดอิบารากิเป็นแหล่งผลิตเครื่องเขินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น โดยมีไดโกะมาจิเป็นศูนย์กลางการผลิต เครื่องเขินไดโกะเบาบางสุดๆ มีจุดเด่นคือความแวววาวเปล่งปลั่งดูเลอค่า และระดับความโปร่งใสสูง (ทำให้เห็นลวดลายของไม้ชัดเจน)

Kijian เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเครื่องเขินไดโกะคุณภาพเยี่ยมสู่คนรุ่นหลัง
Kijian ดำเนินการเองทุกอย่าง ตั้งแต่การปลูกต้นยางรัก ทำผลิตภัณฑ์ยางรัก ทำภาชนะไม้ ลงรัก และจำหน่ายเครื่องเขิน สามารถชมเครื่องเขินบางส่วนได้ที่ร้านค้าและแกลอรี่ที่ดัดแปลงมาจากโกดังเก่า

ขอแนะนำให้ซื้อภาชนะถ้วยชามเครื่องเขินไดโกะซึ่งยิ่งใช้ ก็ยิ่งแวววาว สียิ่งโปร่งแสงและสดใสเพิ่มขึ้นไปเป็นของฝากกัน

“อุมิมาจิเทอร์เรซ” ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองโออาไร (Oarai Town Tourist Information Center Umimachi Terrace)

Oarai Town Tourist Information Center Umimachi Terrace ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองโออาไร "อุมิมาจิเทอร์เรซ" อยู่ติดกับสถานีโออาไร (Oarai Sta.)
ที่นี่มีบริการให้เช่าจักรยาน สามารถเช่าจักรยานปั่นสำรวจโออาไรได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า มีจักรยาน 2 แบบ คือแบบสปอร์ตและแบบพับ ลองเลือกใช้ตามสไตล์การเที่ยวได้เลย
นอกจากนี้ยังมีบริการเช่ารถตุ๊ก-ตุ๊กแบบของไทยซึ่งหายากในญี่ปุ่นด้วย สามารถเดินทางไปกับไกด์ที่จะให้ข้อมูลการท่องเที่ยวและช่วยแนะนำการขับขี่ ทำให้เที่ยวได้อย่างสบายใจ (* ผู้ใช้บริการนี้ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ของญี่ปุ่น)
ที่นี่ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออริจินัลและของฝากของโออาไรด้วย

ศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine)

เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ว่ากันว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงราว 3,000 ปี ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สักการะเขาทสึคุบะซึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในภูมิภาคคันโต

เขาทสึคุบะมียอดเขาแฝด ได้แก่ ยอดเขานันไต (ยอดเขาผู้ชาย) และยอดเขาเนียวไต (ยอดเขาผู้หญิง) เชื่อกันว่าบนยอดเขาแต่ละแห่งมีเทพเจ้าสามีภรรยาที่มีนามว่า อิซานามิ โนะ มิโกโตะ (เขาเนียวไต) และ อิซานากิ โนะ มิโกโตะ (เขานันไต) เทพที่ปรากฏอยู่ในตำนานการสร้างประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงว่ากันว่า ศาลเจ้านี้จะให้พรเรื่องคู่ครอง การปกป้องครอบครัว การมีบุตร และการเลี้ยงดูบุตร

ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถือเป็นฐานทัพในการเที่ยวชมเขาทสึคุบะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะขอพรเพื่อความปลอดภัยก่อนปีนขึ้นเขาทสึคุบะ แถมตั้งอยู่ที่เชิงเขานันไต สะดวกในการไปสถานีเคเบิลคาร์ด้วย