Visit

Forest Park Melon no Mori

จังหวัดอิบารากิปลูกเมลอนได้มากที่สุดในญี่ปุ่น Forest Park Melon no Mori เป็นฟาร์มเมลอนในเมืองโฮโคตะ (Hokota) ที่สามารถสนุกกับการเก็บและชิมเมลอนสุกได้ตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ผลิ ถึงต้นฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง จุดเด่นของที่นี่คือมีเมล่อนหลากหลายสายพันธุ์ เช่น "ซายากะ" และ "ยูกะ" ซึ่งเป็นสายพันธุ์ออริจินัลของที่นี่ กิจกรรมเก็บเมลอนไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า สามารถทำกิจกรรมได้แม้ในวันที่ฝนตก ที่นี่จึงเป็นฟาร์มท่องเที่ยวที่สะดวกสบายมากๆ

ในฟาร์มยังมีสถานที่ปิ้งย่างบาร์บีคิวที่สามารถลิ้มลองฮิตาจิวากิว (เนื้อวัวแบรนด์ดังของอิบารากิ) และอื่นๆ แค่มามือเปล่าก็อิ่มอร่อยกันได้ง่ายๆ สบายๆ ที่นี่ยังมีร้านค้าและพื้นที่พักผ่อนด้วย นอกจากเมลอน น้ำผลไม้สดและของหวานจากเมลอนโปะด้วยไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟของที่นี่ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน

* บาร์บีคิวต้องจองล่วงหน้า

VAN SICKEL FARM TSUKUBA (ทอมส์บลูเบอร์รี่)

VAN SICKEL FARM TSUKUBA (แวนซิกเคลฟาร์มทสึคุบะ) เป็นฟาร์มที่ตั้งอยู่ในเมืองทสึคุบะ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แหล่งผลิตบลูเบอร์รี่สำคัญของญี่ปุ่น ฟาร์มแห่งนี้มุ่งมั่นปลูกบลูเบอร์รี่ ที่ใช้แร่ธาตุในดินอย่างเต็มที่ โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกำจัดวัชพืช

นอกจากต้นบลูเบอร์รี่ราว 1,000 ต้น 50 สายพันธุ์แล้ว ที่นี่ยังปลูกแบล็กเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ด้วย สามารถสนุกกับกิจกรรมเก็บบลูเบอร์รี่ตามฤดูกาลได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม และยังมีแพ็กเกจ "กินไม่อั้น" ที่สามารถลิ้มรสบลูเบอร์รี่ได้ไม่จำกัดภายในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ที่ฟาร์มยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ เช่น ไอศกรีมต่างๆ และแยมที่ทำจากเบอร์รี่จำนวนมาก ซึ่งได้รับความนิยมมากด้วยเช่นกัน

เจ้าของฟาร์มเกิดในอเมริกาจึงสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อีกหนึ่งจุดเด่นคือทำเลที่ตั้งที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ สามารถมองเห็นเขาทสึคุบะได้

* กิจกรรมเก็บบลูเบอร์รี่ ในวันธรรมดาไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต้องจองล่วงหน้า

ยามาอิจิ มิโซะ (Yamaichi Miso)

Yamaichi Miso เป็นบริษัทเก่าแก่ที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทเส้นในปี 1962 และได้ขยายกิจการไปสู่การผลิตมิโซะด้วยโคจิ ปัจจุบันบริษัทยังคงมุ่งมั่นผลิตมิโซะแบบโฮมเมด โดยผลิตและจำหน่ายมิโซะราว 15 ชนิด ซึ่งล้วนปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่แต่งสี และไม่ใส่สารกันบูดใดๆ

ที่นี่มีร้านจำหน่ายสินค้าโดยตรง ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งมิโซะ โคจิ รวมทั้่งขนมหวานที่ทำจากมิโซะ อย่างไอศกรีมซอฟต์เซิร์ฟ คุกกี้ และเค้กชิฟฟอน

ทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมิถุนายนของปีต่อไป ยังสามารถร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำมิโซะได้ด้วย (ภาษาญี่ปุ่น)

* โคจิ: เป็นวัตถุดิบในการหมักที่ได้จากการเพาะเชื้อราโคจิ (Aspergillus oryzae) บนข้าว ข้าวบาร์เลย์ หรือถั่วเหลือง ซึ่งเป็นส่วนผสมในมิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) โชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) สาเก (เหล้าญี่ปุ่น) และอื่นๆ

Hitachi-no-Kuni Long Trail

เส้นทางเดินป่า Hitachi-no-Kuni Long Trail เป็นเส้นทางเดินป่าปีนเขาระยะทางรวมราว 320 กิโลเมตร ครอบคลุมเมืองและพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดอิบารากิ 6 แห่ง (ปัจจุบัน ณ ปี 2025 เปิดให้บริการแล้วราว 275 กิโลเมตร) เส้นทางนี้ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาเตี้ยที่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 500 เมตร เหมาะกับนักเดินป่าปีนเขาทั้งมือใหม่และมือโปร

เสน่ห์อีกอย่างของที่นี่คือสามารถสัมผัสทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และผู้คนในท้องถิ่น ในขณะสำรวจป่า ชายหาด ศาลเจ้า สถานที่ทางประวัติศาสตร์ โชเท็นไก (ย่านการค้า) และอื่นๆ

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอแนะนำทัวร์วันเดย์ทริปและแพ็คเกจทัวร์ 2 วัน 1 คืน ที่รวมการเดินทางและที่พักในท้องถิ่น พร้อมบริการไกด์ภาษาอังกฤษเพื่อนำทางในการเดินป่าปีนเขา และการพบปะพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดทัวร์ตามความต้องการของบริษัททัวร์ในต่างประเทศด้วย

Storm Field Guide Ryujin Outdoor Field

Storm Field Guide Ryujin Outdoor Field อยู่ทางเหนือของจังหวัดอิบารากิ มีกิจกรรมทางน้ำมากมายให้เพลิดเพลินบนทะเลสาบเขื่อนริวจินหรือทะเลสาบริวจินได้

สามารถสัมผัสประสบการณ์การพายเรือแคนู การเล่น SUP (ย่อมาจาก Stand Up Paddle คือการยืนพายบนเซิร์ฟบอร์ด) และล่องเรือยาง พร้อมกับแหงนหน้าชมสะพานแขวนริวจิน (Ryujin Big Suspension Bridge) ซึ่งเป็นหนึ่งในสะพานคนเดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และจุดเล่นบันจี้จัมพ์ที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ขณะทำกิจกรรมต่างๆ จากบนทะเลสาบ

เสน่ห์อีกอย่างของที่นี่คือ การเดินเล่นบนน้ำ พร้อมชมหุบเขาลึกลับ โขดหินรูปร่างแปลกตา และน้ำตกลับที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งต้องเดินลุยน้ำเข้าไปเท่านั้น โดยจะมีไกด์นำทางไปด้วย ดังนั้นผู้ที่ร่วมกิจกรรมเป็นครั้งแรกก็สามารถสนุกเพลิดเพลินได้อย่างสบายใจ (มีบริการเป็นภาษาอังกฤษ, ให้บริการในระบบจองล่วงหน้า)

มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พรั่งพร้อม เช่น ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องอาบน้ำอุ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งยอดนิยมที่เข้าร่วมได้สบายๆ

* กิจกรรมให้บริการในระบบจองล่วงหน้า

เส้นทางปั่นจักรยาน Tsukuba-Kasumigaura Ring-Ring Road

เส้นทางปั่นจักรยาน Tsukuba-Kasumigaura Ring-Ring Road ระยะทางรวมราว 180 กิโลเมตรนี้ เป็นหนึ่งในเส้นทางปั่นจักรยานแห่งชาติของญี่ปุ่น มีคอร์สปั่นจักรยานให้เลือกหลากหลาย เหมาะทั้งกับนักปั่นมือใหม่และมือโปร การเดินทางมาสะดวก ใช้เวลาขับรถหรือนั่งรถไฟจากสถานีโตเกียว (Tokyo) มาราว 1 ชั่วโมง

เส้นทางที่ปั่นรอบเขาทสึคุบะ (Mt.Tsukuba) 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และทะเลสาบคาซึมิกาอุระ (Lake Kasumigaura) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น เป็นรูทยอดนิยม

ในพื้นที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ สามารถปั่นจักรยานเลียบชายฝั่งทะเลสาบที่ลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามตระการตา

ในพื้นที่เขาทสึคุบะ ยังมีถนนสำหรับปั่นจักรยานและผู้เดินเท้า ที่นำเส้นทางรถไฟเก่ามาใช้ประโยชน์ ขับขี่ง่ายสำหรับนักปั่นมือใหม่ และมีคอร์สปีนเขาเต็มรูปแบบสำหรับนักปั่นที่รักการผจญภัยด้วย

ตลอดเส้นทางยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine) อาหารท้องถิ่น และบ่อน้ำพุร้อน ให้สัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมกัน นอกจากนี้ยังมีจุดให้บ…

Ami Premium Outlets (อามิพรีเมียมเอาท์เล็ท)

ร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของญี่ปุ่นและต่างประเทศกว่า 150 ร้าน เพลิดเพลินกับการซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน และยังใกล้กับพระใหญ่อุชิคุหรืออุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) ด้วย

teamLab: Hidden Traces of Rice Terraces

teamLab: Hidden Traces of Rice Terraces เปิดเมื่อปี 2024 เป็นนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟอาร์ตในป่าและบริเวณที่เคยเป็นนาข้าวขั้นบันไดบนชายฝั่งอิซึระ (Izura Coast) ในเมืองคิตะอิบารากิ (Kitaibaraki)

นิทรรศการนี้เป็นหนึ่งในโครงการ Digitized Nature ที่ teamLab จัดแสดง โดยมุ่งหวังเปลี่ยนธรรมชาติให้เป็นงานศิลปะ
สามารถสนุกกับทริปที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการสำรวจ ขณะเดินผ่านป่าจะได้สัมผัสและชื่นชมผลงานต่างๆ ในบรรยากาศลึกลับที่ถักทอขึ้นด้วยแสงและเสียงเพลง

ไฮไลต์คือบริเวณที่เคยเป็น "นาข้าวลับ" (ซึ่งชาวนาที่ยากลำบากในสมัยเอโดะแอบปลูกข้าวเพื่อเลี่ยงการถูกขูดรีดภาษี) ลำแสงที่ตกกระทบผิวน้ำในนาข้าวขั้นบันไดทำให้พื้นที่แห่งนี้ดูคล้ายทางเดินกระจกน้ำ ราวกับกำลังล่องลอยอยู่บนผิวน้ำ

บริเวณใกล้เคียงยังมีกระท่อมและแกลมปิ้งพร้อมออนเซ็น ให้คุณได้สัมผัสศิลปะและธรรมชาติในบรรยากาศผ่อนคลาย

หาดทาคาโดะโคฮามา (Takadokohama Beach)

หาดทาคาโดะโคฮามาอยู่ทางเหนือของจังหวัดอิบารากิ เป็นจุดชมวิวที่มีอ่าวสองแห่งที่ถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ

ชายหาดแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน "100 ชายหาดยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น" ที่ได้รับคัดเลือกโดยสมาคมประมงญี่ปุ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดนิยม และยังเหมาะกับการดูดาวในคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส เนื่องจากอยู่ห่างจากเมืองใหญ่และแสงไฟ

แม้ว่าจะไม่อนุญาตให้ แต่ชายหาดมีปูเล็กๆ และดอกไม้ทะเลอาศัยอยู่ จึงเหมาะมาเดินเล่นเก็บหอยเก็บปูริมหาดในช่วงฤดูร้อน

พื้นที่นี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวและช่างภาพ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้มาเที่ยวกันในวันธรรมดาเพื่อลดความแออัด

ศาลเจ้าฮานาโซโนะ (Hanazono Shrine)

ศาลเจ้าฮานาโซโนะสร้างเมื่อปี 795 ตั้งอยู่กลางภูเขาเขียวขจีที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และเสียงลำธารไหลเอื่อยๆ

ลวดลายหลักของศาลเจ้าคือเทพเจ้าลิง เมื่อขึ้นบันไดไปยังศาลเจ้าหลัก จะเห็นรูปลิงไม้แกะสลัก 3 ตัว ที่มีความหมายว่า "ไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี" แต่มีรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่นคือแต่ละตัวปิดตาข้างเดียว ปิดหูข้างเดียว และปิดปากด้วยมือขวาข้างเดียวเท่านั้น

บริเวณศาลเจ้าเรียงรายไปด้วยต้นสนซึกิ (ต้นสนญี่ปุ่น) และต้นสนคาราคาซะมัตสึที่มีอายุมากกว่า 500 ปี มี "คาบุซึกิ" ต้นสนญี่ปุ่นที่มีตุ่มนูน (คาบุ แปลว่า ตุ่มนูน) ขนาดใหญ่ ซึ่งว่ากันว่าจะนำความสุขและโชคลาภมาสู่ผู้ที่ปรารถนาจะมีบุตร
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่มากมาย เช่น ต้นไม้สนศักดิ์สิทธิ์อายุ 800 ปี ซึ่งมีลำต้นแตกเป็น 3 ลำต้น

ทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีการงานประดับไฟไลต์อัพ ทำให้ศาลเจ้าและน้ำตกเล็กๆ ภายในบริเวณศาลเจ้าสว่างไสวเปล่งประกายราวกับโลกแห่งความฝัน

คาซึมิกาอุระ โดบุซึโตะ มินนะโนะอิเอะ

“คาซึมิกาอุระ โดบุซึโตะ มินนะโนะอิเอะ” ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขนาดใหญ่จากอาคารสาธารณะที่มีอยู่เดิมริมทะเลสาบคาซึมิกาอุระในเมืองนาเมะกะตะ และได้เปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2024
ที่นี่คุณไม่เพียงได้ชมสัตว์เท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสสัตว์อย่างใกล้ชิด ภายในอาคารได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง คุณจะได้พบกับสัตว์หลากหลายชนิด เช่น ยีราฟ อัลปาก้า คาปิบารา เพนกวิน เต่าบก แกะ แพะ และสลอธ
นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ อาคารยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งปี เช่น บาร์บีคิว ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น ปั่นจักรยาน แคมป์
*บางกิจกรรมต้องทำการจองล่วงหน้า

ดาอิคุมาจิ

ดาอิคุมาจิตั้งอยู่ในเมืองมิโตะ เป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงในทางเหนือของคันโต และเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลมิโตะ โทคุกาวะหนึ่งในสามตระกูลโทคุกาวะ ชื่อของดาอิคุมาจิมีที่มาจากในสมัยที่เป็นเมืองบริเวณปราสาทมิโตะมีช่างไม้ (“ดาอิคุ” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงช่างไม้) จำนวนมากอาศัยอยู่ในย่านนี้ (“มาจิ” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงเมือง)
ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารทั้งแบบญี่ปุ่น, ตะวันตก และจีน รวมถึงสแน็กและบาร์มากมายกว่า 300 ร้าน และในตอนกลางคืนจะคึกคักอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีร้านที่เสริฟอาหารท้องถิ่น เช่น ปลาไหลและหม้อไฟปลาอังโคซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของมิโตะ รวมถึงร้านอาหารเก่าแก่ที่มีประวัติมายาวนานอีกมากมาย คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมการนั่งทานอาหารตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมร่วมกับนักแสดงในชุดกิโมโนจากสมาคมศิลปินการแสดงมิโตะได้อีกด้วย
ย่านนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสค่ำคืนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม