ซาไกมาจิ (Sakaimachi) ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) เป็นตำบลเล็กๆ แต่มีอาคาร 6 หลังที่ออกแบบโดยคุณคุมะ เค็งโกะ สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ปัจจุบันเป็นดินแดนสวรรค์แห่งใหม่ของผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมของคุณคุมะ เค็งโกะ ที่นี่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับของอร่อยในท้องถิ่น ชื่นชมศิลปะ ขณะตระเวนชมสถาปัตยกรรมต่างๆ

ซาไกมาจิ จังหวัดอิบารากิ ดินแดนสวรรค์แห่งใหม่ของผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมของคุณคุมะ เค็งโกะ

ซาไกมาจิตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดอิบารากิ ใกล้กับโตเกียว เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโทเนะ (Tone River Basin) จึงเคยรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ (การขนส่ง) มาตั้งแต่สมัยก่อน

ปัจจุบันซาไกมาจิแห่งนี้มีอาคารหลายแห่งซึ่งออกแบบและควบคุมโดยคุณคุมะ เค็งโกะ สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบอาคารชั้นเลิศต่างๆ เช่น สนามกีฬาแห่งชาติที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ที่นี่เคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมเมื่อเดือนกันยายน 2015 แต่ได้รับการบูรณะฟื้นฟูใหม่ด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือจากคุณคุมะ เค็งโกะ

คุณคุมะ เค็งโกะ เป็นที่รู้จักจากสไตล์การออกแบบที่มีเอกลักษณ์มากๆ โดยใช้ไม้ในการออกแบบ นับตั้งแต่ปี 2018 มี 6 ผลงานอันโดดเด่นซึ่งสร้างขึ้นในซาไกมาจิ ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดินแดนสวรรค์แห่งใหม่ของผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมของคุณคุมะ เค็งโกะ”

บทความนี้ขอแนะนำจุดที่น่าสนใจของ 6 อาคารเหล่านี้ ทั้งหมดอยู่ไม่ไกลกันนัก ดังนั้นสามารถเที่ยวชมได้หมดภายในวันเดียว จึงเป็นทริปสั้นๆ ที่จะได้ลิ้มรสของอร่อยและดื่มด่ำกับงานศิลปะ

ชากุระ (Chagura) แหล่งเผยแพร่วัฒนธรรมอาหาร

Chagura (แปลว่า โกดังชา) ออกแบบโดยคุณคุมะ เค็งโกะ เปิดเมื่อเดือนเมษายน 2019 หลังสร้างเสร็จได้กลายเป็นแลนด์มาร์กของท้องถิ่น

ภายนอกของ Chagura ประกอบด้วยแผ่นไม้ซ้อนกันหลายชั้นคล้ายปีกนก การออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคากระเบื้องของโกดังญี่ปุ่นสมัยก่อน และวัสดุที่ใช้เป็นแผ่นไม้สนญี่ปุ่นในจังหวัดอิบารากิ

ภายในมีเพดานยกสูง สอดรับกับแสงไฟและผ้าที่ห้อยโค้งจากเพดานลงมาอย่างลงตัว ผ้าที่ใช้เป็นผ้าย้อมด้วยสีใบชาไล่ระดับเฉดสีเขียว พื้นที่ซาชิมะ รวมถึงซาไกมาจิเป็นพื้นที่แรกในญี่ปุ่นที่มีการส่งออกชาไปต่างประเทศ ชานั้นก็คือ “ชาซาชิมะ” ที่ตั้งชื่อตามแหล่งผลิตนี้ การออกแบบนี้จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ผสมผสานการออกแบบสไตล์ดั้งเดิมกับวัฒนธรรมสมัยใหม่

ชั้น 1 มี SHED (เชด) โซนอาหารเล็กๆ ซึ่งสามารถซื้อและรับประทานของว่างและข้าวกล่องที่เน้นวัตถุดิบในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตร็ดในชีวิตประจำวันที่คัดสรรอย่างดีด้วย

ชั้น 2 ยังมีร้านเทปันยากิ SAKAI TEPPAN by Wolfgang Zwiener (ร้านสเต็กเฮาส์ที่โด่งดังของอเมริกา )

SHED BOX กับโออิโมะโนะเชค (น้ำมันเทศปั่น)

เมนูฮิตของ SHED คือ SHED BOX เมนูซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากเนื้อวัวฮิตาจิวากิว (Hitachi Wagyu Beef) เนื้อหมูพันธุ์เหมยซาน (Meishan Pork เป็นคุโรบุตะหรือหมูดำพันธุ์หนึ่ง) และผักที่ปลูกในซาไกมาจิ ส่วนเครื่องดื่มที่ได้รับการกล่าวถึงมากๆ ก็คือ โออิโมะโนะเชคซึ่งทำจากมันเทศที่ปลูกในจังหวัดอิบารากิ แวะมาลิ้มลองความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของอิบารากิให้จุใจกัน

Chagura ตั้งอยู่ริมทางหลวง ใกล้กับมิจิโนะเอะคิ ซาไกหรือจุดแวะพักรถซาไก (Sakai Roadside Station) ซึ่งสร้างเลียนแบบโกดังญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมที่มีผนังสีขาวและกระเบื้องมุงหลังคาสีดำขึ้น ที่นี่จำหน่ายวัตถุดิบสดใหม่และอาหารแปรรูปในท้องถิ่น เหมาะแวะซื้อของฝาก ที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยถ่ายทอดมนต์เสน่ห์และลักษณะพิเศษของพื้นที่ซาไกมาจิแก่นักท่องเที่ยว

Sakai Sand (ซาไกแซนด์) ที่สามารถเพลิดเพลินกับของอร่อยเลิศรสในซาไกมาจิ

Sakai Sand ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของจุดแวะพักรถซาไก (Michi-no-Eki Sakai) เป็นอาคารหลังแรกซึ่งคุณคุมะ เค็งโกะออกแบบที่ซาไกมาจิเมื่อปี 2018

แม้เป็นร้านเล็กๆ แต่การออกแบบมีเอกลักษณ์ความเป็นคุณคุมะ เค็งโกะอย่างชัดเจน อันที่จริงแค่มองการตกแต่งด้วยแผ่นไม้ที่เรียงรายอยู่ตรงทางเข้า ก็รู้ได้ทันทีว่าอาคารหลังนี้ใครเป็นผู้ออกแบบ

แซนด์วิชที่ใส่ผักแบบจัดเต็ม แซนด์วิชแซลมอนคัตสึกับอะโวคาโด และชาซาชิมะเลมอนโซดา

มีแซนด์วิชหลากหลายแบบให้ลิ้มลอง รวมทั้งเครื่องเคียงและของหวาน รังสรรค์โดยวัตถุดิบหลักๆ ในท้องถิ่นของซาไกมาจิ อย่างขนมปังเนื้อนุ่มเบาที่ทำจาก “ยูเมะคาโอริ” ข้าวสาลีท้องถิ่นซึ่งมีกลิ่นหอมมากๆ และเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม

จุดเด่นของร้าน Sakai Sand คือคอนเซ็ปต์ที่ว่า “แซนวิชจากวัตถุดิบแสนอร่อยของซาไกมาจิ” เป็นแซนด์วิชชิ้นหนา หน้าตาดี สุดอร่อยที่น่าทึ่ง ด้วยชื่อเสียงอันล่ำลือต่างๆ นี้ ทำให้มีลูกค้ามากมายแวะเวียนมาลิ้มลองกัน แซนด์วิชสุดฮิตจึงขายหมดทันทีที่เปิดร้าน

นอกจากผักและผลไม้แล้ว เครื่องปรุงรสที่ใช้ในร้านนี้ยังมีจำหน่ายที่จุดแวะพักรถซาไกด้วย

มอนเตเนโกรไคกัน (Montenegro Hall) หลักฐานแห่ง///แสดงมิตรภาพระหว่างซาไกมาจิกับอาร์เจนตินา

Tความเป็นมาของมอนเตเนโกรไคกัน (Montenegro Hall) เริ่มต้นในช่วงที่นายพล แมตธิว เพอร์รี (Matthew C. Perry) นำกองเรือรบสีดำมาเทียบน่านน้ำญี่ปุ่นเมื่อปี 1853 ได้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างลูกเรือชาวอาร์เจนตินากับขุนนางที่มีถิ่นกำเนิดในซาไกมาจิ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงมิตรภาพระหว่างสาธารณรัฐอาร์เจนตินาและซาไกมาจิที่เริ่มต้นในเวลานั้น จึงมีการสร้างมอนเตเนโกรไคกันขึ้นในปี 1937 ด้วยความช่วยเหลือของอุปทูตอาร์ตูโรแห่งมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นหลานชายของลูกเรือในตอนนั้น

เดิมที่นี่ใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรมยุวชนในท้องถิ่น แต่เนื่องจากสร้างด้วยไม้ หลังจากผ่านไป 80 ปีจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงใหม่ ดังนั้นในวาระครบรอบ 120 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างญี่ปุ่นกับสาธารณรัฐอาร์เจนตินาในปี 2018 อาคารจึงได้รับการปรับปรุงใหม่ตามการออกแบบของคุณคุมะ เค็งโกะ และในปี 2020 อาคารจึงมีรูปลักษณ์ใหม่

ในการปรับปรุงอาคารใหม่ นอกจากมีการนำเสาและคานเดิมมาใช้ และอนุสาวรีย์ตรงทางเข้าก็ใช้กระเบื้องเก่าด้วย อาคารหลังนี้จึงเป็นการผสานยุคเก่ากับยุคปัจจุบันเข้าด้วยกัน และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ยั่งยืนระหว่างญี่ปุ่นกับอาร์เจนตินาด้วย

Picture courtesy of Tea Cafe & Shop Chabaco

ปัจจุบัน อาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งแกลเลอรีจัดแสดงนิทรรศการการแลกเปลี่ยนระหว่างซาไกมาจิกับอาร์เจนตินา รวมถึง Tea Cafe & Shop Chabaco ที่ดำเนินการโดยนากาโนะเอ็น (Naganoen) ไร่ชาท้องถิ่นในจังหวัดอิบารากิ

ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับชาซาชิมะหลากหลายชนิดที่ผลิตในซาไกมาจิ อย่างเรียคุฉะ (ชาเขียว) โคฉะ (ชาฝรั่งหรือชาดำ) และโฮจิฉะ (ชาคั่ว) ที่นี่จึงถือเป็นสถานที่ซึ่งคนรักชาไม่ควรพลาด

Picture courtesy of Tea Cafe & Shop Chabaco

นอกจากชา ขนมหวานชิ้นเล็กสุดน่ารักของที่นี่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นขนมหวานที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตและงดงามมากจนถ้ากินหมดก็น่าเสียดาย ลองแวะไปใช้ช่วงเวลาสุดหรูท่ามกลางสถาปัตยกรรมสุดล้ำค่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลกกัน

S-Brand HOSHIIMONO 100 Café ที่สามารถลิ้มรสกาแฟและขนมหวานที่ทำจากโฮชิอิโมะ

S-Brand HOSHIIMONO 100 Café เป็นอาคารใหม่ล่าสุดในซาไกมาจิ ออกแบบโดยคุณคุมะ เค็งโกะ สร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021

ที่นี่คืออาคารในโครงการ S-project ซึ่งย่อมาจาก SAKAI project โครงการฟื้นฟูท้องถิ่นซึ่งเกิดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองกับชาวเมืองให้แน่นแฟ้น

HOSHIIMONO 100 Café เป็นคาเฟ่ที่มีธีมโฮชิอิโมะ (มันเทศตากแห้ง) ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นอิบารากิ

ด้านนอกตกแต่งด้วยไม้สนแผ่นบางยาวที่สื่อถึงเส้นใยของมันเทศ

ส่วนภายในร้านได้รับการออกแบบโดยใช้ไม้และสีขาวเป็นหลัก สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเรียบง่าย อาคารมี 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นพื้นที่สั่งอาหารและจำหน่ายสินค้า ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร

HOSHIIMONO Pudding (พุดดิ้ง) , HOSHIIMONO Café Latte (คาเฟ่ลาเต้)

S-Brand HOSHIIMONO 100 Café คือคาเฟ่ในธีม “โฮชิอิโมะ” แห่งแรกของญี่ปุ่น ภายในคาเฟ่ยังจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดสุดน่ารักที่มีลวดลายโฮชิอิโมะซึ่งมีเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น นอกจากนี้เมนูส่วนใหญ่ยังเป็นเมนูออริจินัลของที่นี่ ซึ่งนำความโดดเด่นของเนื้อสัมผัสและความหวานของโฮชิอิโมะมารังสรรค์เมนูต่างๆ

เมนูสุดฮิตของที่นี่คือ HOSHIIMONO cafe latte ความหวานของโฮชิอิโมะที่ช่วยขจัดความขมของกาแฟกับความเข้มข้นของนมที่อบอวลทั่วปากเป็นรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้นมากๆ ทุกครั้งที่จิบจะประหลาดใจว่าโฮชิอิโมะกับกาแฟช่างเข้ากันมากจริงๆ

S-Gallery Shuku Sanpo Museum และ S-Lab ที่อยู่ติดกัน

Gallery Shuku Sanpo Museum และ S-Lab ก็เป็นอาคารใน S-project เช่นกัน อยู่ห่างจาก S-Brand HOSHIIMONO 100 Café เพียงไม่กี่ก้าว

อาคารสีขาว 2 หลังนี้ที่ซ่อนตัวเงียบๆ ในย่านที่พักอาศัยอันเงียบสงบ เป็นอาคารที่เรียงต่อกันรูปตัว L

S-Gallery Shuku Sanpo Museum และ S-Lab ก็เป็นอาคารใน S-project เช่นกัน อยู่ห่างจาก S-Brand HOSHIIMONO 100 Café เพียงไม่กี่ก้าว

อาคารสีขาว 2 หลังนี้ที่ซ่อนตัวเงียบๆ ในย่านที่พักอาศัยอันเงียบสงบ เป็นอาคารที่เรียงต่อกันรูปตัว L

S-Lab ที่อยู่ติดกัน มีการออกแบบที่กลมกลืนกับ S-Gallery ที่นี่คืออาคารวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อในท้องถิ่นใหม่ๆ โดยได้วิจัยและพัฒนาสินค้าต่างๆ อย่างโฮชิอิโมะและไวน์ แม้จะไม่ได้จัดทัวร์เปิดให้บุคคลทั่วไปชม แต่สามารถชมกระบวนการวิจัยต่างๆ ผ่านกระจกได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทดลองชิมเล็กๆ ตรงทางเข้าด้วย

ทริปตระเวนชมสถาปัตยกรรมในจังหวัดอิบารากิ

จังหวัดอิบารากิมีอาคารหลายแห่งที่ออกแบบโดยสุดยอดสถาปนิกร่วมสมัยที่ได้รับรางวัล จึงเป็นพื้นที่ซึ่งผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมต้องไม่พลาดมาตระเวนเที่ยวชมกัน

ในจังหวัดอิบารากินอกจากซาไกมาจิแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมของคุณคุมะ เค็งโกะในพื้นที่อื่นๆ อีก เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรซาวะ (Hirosawa Art Museum) ในเมืองจิคุเซ (Chikusei) และมารุยามะโนริเท็น ทสึคุบะโคโจ (Maruyama Nori Ten Tsukuba Kocho) ในเมืองทสึคุบะมิไร (Tsukubamirai) นอกจากนี้ยังมีสถานี JR ฮิตาจิที่เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ควบคุมการออกแบบโดยคุณเซจิมะ คาซุโยะ ผู้มีถิ่นกำเนิดเป็นชาวเมืองฮิตาจิ, ห้องสมุดประจำเมืองมิโตะ-ตะวันตก (Mito-West City Library) ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากของภาพยนตร์เรื่องสงครามห้องสมุด (Library Wars) ออกแบบโดยคุณอาราอิ ชิอากิ, และพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่จังหวัดอิบารากิ (The Museum of Modern Art, Ibaraki) ซึ่งได้รับรางวัล BCS Award (Building Contractors Society Award) รางวัลทางสถาปัตยกรรมที่มอบให้โดยสหพันธ์อุตสาหกรรมก่อสร้างญี่ปุ่น (Japan Federation of Construction Contractors) ออกแบบโดยคุณโยชิมูระ จุนโซ กล่าวได้ว่า การมาเที่ยวซาไกมาจิต้องถูกใจผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมอย่างแน่นอน