ใบไม้เปลี่ยนสีและอาหารเลิศรส! 9 สถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงและอาหารแนะนำของจังหวัดอิบารากิ

อาหาร

ธรรมชาติ

ใบไม้เปลี่ยนสีและอาหารเลิศรส! 9 สถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงและอาหารแนะนำของจังหวัดอิบารากิ

จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) อยู่ใกล้โตเกียว เป็นที่รู้จักในเรื่องทิวทัศน์งามวิจิตรตระการตาและอาหารอร่อยรสเลิศ ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นฤดูท่องเที่ยวแนะนำที่สามารถเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีและอาหารรสเลิศได้อย่างจุใจ บทความนี้ขอแนะนำ 9 แหล่งท่องเที่ยวและอาหารรสเลิศที่เพลิดเพลินได้ในช่วงฤดูกาลนี้

ไฮไลต์ของฤดูใบไม้ร่วงในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดอิบารากิ

อยากชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นสักครั้ง” คิดว่ามีหลายคนคงรู้สึกแบบนี้ จังหวัดอิบารากิซึ่งใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวมาแค่ 2 ถึง 3 ชั่วโมง มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเยอะเลย แถมยังเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยรสเลิศในฤดูใบไม้ร่วงได้อีกด้วย

บทความนี้ขอแนะนำสถานที่เที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงรวมทั้งอาหารเลิศรสใน 3 พื้นที่ของจังหวัดคือ ทางเหนือที่มีทิวทัศน์งดงามตระการตามากมาย ตอนกลางของจังหวัดอย่างเมืองมิโตะ (Mito) ที่มีศาลาว่าการจังหวัดตั้งอยู่ และทางใต้ใกล้กับโตเกียว!

* ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีในจังหวัดอิบารากิมักจะอยู่ในเดือนพฤศจิกายน แต่มีบางจุดที่เพลิดเพลินใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงกลางเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนธันวาคมด้วยขึ้นอยู่กับสถานที่ หากต้องการทราบรายละเอียดข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีในปีนี้ สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซด์ https://www.ibarakiguide.jp/seasons/koyo.html (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

พื้นที่ทางเหนือของจังหวัด

หุบเขาฮานานุกิ (Hananuki Gorge)

หุบเขาฮานานุกิในเมืองทาคาฮากิ (Takahagi) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในจังหวัดอิบารากิ มีผู้มาเที่ยวชมมากมายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ทัศนียภาพอันงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่มองจากสะพานแขวนที่ทอดผ่านหุบเขาฮานานุกินี้เป็นที่โจษจันที่สุด บริเวณรอบสะพานแขวนมีเส้นทางให้เดินเล่นพักผ่อน หากได้ฟังเสียงแม่น้ำที่ไหลรินท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี รับรองว่าจะรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน

ข้อมูล

หุบเขาฮานานุกิ

หุบเขาฮานานุกิ

หุบเขาฮานานุกิมีภูมิทัศน์งดงามทอดยาวตั้งแต่เขื่อนฮานานุกิ (Hananuki dam) จนถึงบึงนาเมกะฟุจิ (Nameriga-Fuchi) และที่ตั้งแคมป์โอตาจิซาวะ (Kotachizawa Camp Site) ที่นี่ยังมีเส้นทางให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงเส้นทางปีนเขาด้วย
ทิวทัศน์ที่มองจากจุดชมวิวบนสะพานแขวนข้ามน้ำตกชิโอมิ (Shiomi Falls) ที่ทอดผ่านหุบเขานั้นงดงามตระการตามาก โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง กิ่งไม้ที่ยื่นลงไปในแม่น้ำทอดยาวตลอดทั้งสองฝั่งคล้ายอุโมงค์ช่างสวยงามจนหาที่เปรียบไม่ได้

ดูบทความเพิ่ม

ฮิตาจิอากิโซบะ (Hitachi Aki Soba)

โซบะเป็นอาหารเส้นเพื่อสุขภาพสุดอร่อยยอดฮิตของญี่ปุ่น จังหวัดอิบารากิเป็นศูนย์กลางการผลิตโซบะแบรนด์ “ฮิตาจิอากิโซบะ”

ความโดดเด่นของฮิตาจิอากิโซบะคือรสชาติที่เข้มข้นและความหอมหวานละมุนเมื่อนำเข้าปาก ด้วยความโดดเด่นของรสชาตินี้ ร้านอาหารโซบะชื่อดังทั่วญี่ปุ่นจึงนิยมใช้

แหล่งผลิต “ฮิตาจิอากิโซบะ” คือเมืองฮิตาจิโอตะ (Hitachi Ota) ทางเหนือของอิบารากิ เมืองฮิตาจิโอตะมีสะพานแขวนริวจิน (Ryujin Big Suspension Bridge) หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในจังหวัดอิบารากิ และยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังด้วย มีร้านหลายแห่งในพื้นที่ที่ให้บริการฮิตาจิอากิโซบะ สามารถลิ้มรสโซบะอร่อยและเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมกันด้วย

ข้อมูล

สะพานแขวนริวจิน

สะพานแขวนริวจิน

สะพานแขวนริวจินอตั้งตระหง่านเหนือเขื่อนริวจิน (Ryujin Dam) โดยน้ำจากเขื่อนไหลผ่านหุบเขารูปตัววีที่งดงาม สะพานยาวทั้งสิ้น 375 เมตร เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น จากสะพานแขวนจะมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่สวยงามยิ่งได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
ในฤดูใบไม้ผลิมีการตกแต่งธงปลาคาร์ฟอันเพื่อขอพรให้กับเด็ก ส่วนฤดูใบไม้ร่วงมีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม ยงมีการกระโดดบันจีจัมพ์ที่ความสูง 100 เมตร ซึ่งถือว่ามีความสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ดูบทความเพิ่ม

น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls)

น้ำตกฟุคุโรดะในเขตโอคุคุจิไดโกะ (Okukuji Daigo) ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม เป็น 1 ใน “3 น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น” เช่นเดียวกับน้ำตกเคงอน (Kegon Falls) ในนิกโก้ (Nikko) น้ำตกที่ไหลผ่านหน้าผาใหญ่สูง 120 เมตร กว้าง 73 เมตรที่มีชั้นหินไล่ระดับลงมา 4 ชั้นให้ความรู้สึกที่ทรงพลังมากๆ น้ำตกนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “โยโดะ โนะ ทากิ (Yodo no Taki)” ที่แปลว่า “น้ำตก 4 ชั้น”

น้ำตกแห่งนี้ไม่ว่าจะมาเยี่ยมชมในฤดูไหนก็สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง น้ำตกที่ไหลโดยมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลังมีบรรยากาศงดงามตระการตามากๆ นอกจากนี้ในละแวกรอบๆ ยังมีออนเซ็นด้วย ทำให้สามารถดื่มด่ำกับช่วงเวลาของฤดูใบไม้ร่วงแบบสบายๆ ได้

ข้อมูล

น้ำตกฟุคุโรดะ

น้ำตกฟุคุโรดะ

น้ำตกฟุคุโรดะเป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น น้ำตกจะไหลผ่านหน้าผาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นชั้นหินไล่ระดับลงมา 4 ชั้น ทำให้น้ำตกนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า "โยโดะ โนะ ทากิ (Yodo no Taki)" ที่แปลว่า "น้ำตก 4 ชั้น"
มีจุดชมวิวที่เห็นน้ำตกอย่างใกล้ชิด และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามในแต่ละฤดูกาลได้ด้วย

ดูบทความเพิ่ม

โฮชิอิโมะ (มันเทศตากแห้ง)

จังหวัดอิบารากิมีผืนดินที่เหมาะกับการปลูกมันเทศอยู่มาก อีกทั้งเป็นพื้นที่หนาวเย็นและฝนตกน้อย ที่นี่จึงมีการทำโฮชิอิโมะกันมาตั้งแต่อดีต ด้วยรสชาติที่อร่อยมากๆ ปัจจุบัน โฮชิอิโมะจึงสินค้าประจำท้องถิ่นที่มีส่วนแบ่งในตลาดญี่ปุ่นมากถึง 90%

มีมันเทศหลากหลายสายพันธุ์ที่ใช้ทำโฮชิอิโมะ แถมยังมีรูปแบบต่างกัน 2 แบบ คือแบบสไลด์เป็นแผ่นตากแห้งและแบบตากแห้งทั้งลูกโดยไม่หั่นด้วย สายพันธุ์ต่างกัน รูปลักษณ์ต่างกัน รสชาติก็ต่างกัน ดังนั้นต้องลองชิมแต่ละสายพันธุ์และแต่ละรูปแบบ เพื่อลิ้มรสความอร่อยแต่ละแบบกันดู

เมืองฮิตาจินากะ (Hitachinaka) ตั้งอยู่ติดทะเลทางเหนือของจังหวัด เป็นแหล่งผลิตโฮชิอิโมะชื่อดัง แต่โดยทั่วไปสามารถซื้อหาโฮชิอิโมะได้ที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัดอิบารากิ

พื้นที่ตอนกลางของจังหวัด

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki Prefectural Archives and Museum)

เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิโตะซึ่งมีศาลาว่าการของจังหวัดอิบารากิ ภายในบริเวณนี้มีอาคารประวัติศาสตร์หลายหลังที่ย้ายมาและบูรณะซ่อมแซมใหม่ เช่น อาคารหลังเก่าของโรงเรียนประถมศึกษามิซึไคโด (Former Mizukaido Elementary School) ที่สร้างขึ้นในปี 1881 และบ้านเรือนสมัยเอโดะ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แนะนำให้มาเดินเล่นกัน

ในฤดูใบไม้ร่วง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยจะกลายเป็นสีเหลืองทองและทำให้ทั่วทั้งสวนดูราวกับปูพรมสีเหลืองทอง ทำให้ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตอีกแห่งของจังหวัดที่มีผู้คนแวะเวียนมาเที่ยวชมและถ่ายรูปมากมาย ในยามค่ำคืนยังมีการประดับไฟไลต์อัพที่สวยงามไปอีกแบบด้วย

ข้อมูล

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดอิบารากิ

พิพิธภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ของจังหวัดอิบารากิ และเพลิดเพลินกับความงามของสวนได้ทั้ง 4 ฤดูกาล
ก่อตั้งในปี 1974 และยังเป็นหอจดหมายเหตุที่เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ของจังหวัดอิบารากิ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยูบนพื้นที่ขนาดใหญ่ 72,000 ตร.ม. มีบ้านเรือนสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) และอาคารเรียนสไตล์ตะวันตกในสมัยเมจิ (ปี 1868 - 1912)
และยังเป็นสถานที่ชมต้นแปะก๊วยสีเหลืองสดใสในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นไฮไลต์หนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น

ดูบทความเพิ่ม

สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden) และสวนหุบเขาเมเปิ้ล (Momiji-dani Garden)

สวนไคราคุเอนตั้งอยู่ในเมืองมิโตะ เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น 1 ใน “3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น”

สวนหุบเขาเมเปิ้ลเป็นส่วนต่อขยายซึ่งเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดัง เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต้นโมมิจิและต้นคาเอเดะราว 170 ต้นจะแต่งแต้มไปด้วยสีสันและสะท้อนความงดงามบนผิวน้ำของสระ ผู้ที่มาเยี่ยมชมต่างชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามตระการตายิ่งนี้ บริเวณรอบนอกของสวนไคราคุเอนเชื่อมต่อกับทะเลสาบเซนบะ (Lake Senba) ที่สวยงาม ขอแนะนำให้เดินเที่ยวเล่นรอบๆ บริเวณนี้ด้วย

จากสถานี JR Mito สามารถนั่งรถมาที่สวนไคราคุเอนได้ในเวลาราว 20 นาที รอบๆ สถานี JR Mito มีที่พักและร้านอาหารมากมายให้เลือกพักผ่อนได้สบายๆ

ข้อมูล

สวนไคราคุเอน

สวนไคราคุเอน

สวนไคราคุเอนเป็น "1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ซึ่งอีก 2 แห่งคือสวนเคนโระคุเอนที่จังหวัดคานาซาวะ และสวนโคราคุเอนที่จังหวัดโอคายามะ สวนแห่งนี้เปิดให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจเมื่อปี 1842 โดยนาริอาคิ โทคุกาวะ ไดเมียวที่ 9 ในตระกูลมิโตะ
สวนไคราคุเอนได้ปลูกต้นบ๊วย 100 สายพันธุ์ราว 3,000 ต้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม สามารถชม “เทศกาลดอกบ๊วย” แล้วต่อด้วยดอกซากุระและดอกสึสึจิหรือดอกอาซาเลียในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฮางิ (ไม้พุ่มชนิดหนึ่ง) ในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนต้นฤดูหนาวก็ได้ชมดอกนิคิซาคิซากุระ (ซากุระที่ผลิบานใน 2 ฤดู) ทำให้สวนแห่งนี้ดูสวยงามตลอดทั้งปี

ดูบทความเพิ่ม

เกาลัดอิบารากิ

จังหวัดอิบารากิซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งปลูกเกาลัดอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองคาซามาะ (Kasama) ในพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดคือแหล่งปลูกเกาลัดชื่อดัง

ราวเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมคือฤดูของเกาลัด ดังนั้นในช่วงนี้ เราจะสามารถรับประทานอาหารรสเลิศที่ใช้เม็ดเกาลัดได้ที่คาเฟ่และร้านอาหารต่างๆ ในเมืองคาซามะอย่างเกาลัดคั่ว ขนมหวานจากเกาลัด และข้าวอบเกาลัด

เมืองคาซามะยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมด้วย ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผามากมาย นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าคาซามะอินาริ (Kasama Inari Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ระหว่างเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ อย่าลืมแวะชิมอาหารอร่อยๆ จากเกาลัดกันนะ

ข้อมูล

ศาลเจ้าคาซามะอินาริ (Kasama Inari shrine)

ศาลเจ้าคาซามะอินาริ (Kasama Inari shrine)

ศาลเจ้าคาซามะอินารินับเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองคาซามะ เทพเจ้าประจำศาลเจ้าคือ เทพอุคาโนะมิทามะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการเพิ่มและดูแลผลผลิต และช่วยปกป้องไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ สร้างขึ้นในปี 651 มีประวัติยาวนานกว่า 1,350 ปี มีนักท่องเที่ยวมาสักการะปีละ 3.5 ล้านคน

ดูบทความเพิ่ม

ผลไม้ในฤดูใบไม้ร่วงของอิบารากิ

จังหวัดอิบารากิเป็นพื้นที่เกษตรกรรมอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ที่มีการปลูกผลไม้มากด้วย

โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง แต่ละพื้นที่ในจังหวัดจะมีการเก็บเกี่ยวองุ่น สาลี่ ลูกพลับ และแอปเปิ้ล ในอิบารากิก็มีฟาร์มท่องเที่ยวหลายแห่งให้ได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บผลไม้ต่างๆ เหล่านี้ด้วย ท่านที่อยากเพลิดเพลินกับผลไม้สดๆ หรืออยากสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ต้องลองไปเก็บผลไม้ในฟาร์มท่องเที่ยวดู

พื้นที่ทางใต้ของจังหวัด

เขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba)

เขาทสึคุบะเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดอิบารากิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด และสามารถทำกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขาหรือเดินป่า

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง บริเวณต่างๆ ของเขาทสึคุบะจะได้รับการแต่งแต้มสีสันด้วยใบไม้เปลี่ยน มีบริการโรปเวย์ (กระเช้าลอยฟ้า) ที่ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับความงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากบนฟ้าได้ โรปเวย์จะเชื่อมจากกลางภูเขาไปถึงยอดเขาในเส้นทางที่ต่างจากเคเบิ้ลคาร์ทำให้ได้ชมความงามที่ต่างกัน

บนเขาทสึคุบะยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อย่างศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine) ที่บริเวณกลางเขา นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นยอดอิตที่ช่วยบำบัดความเหนื่อยล้าหลังจากเดินป่าหรือเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ด้วย

 

ข้อมูล

เขาทสึคุบะ

เขาทสึคุบะ

ตั้งแต่สมัยก่อนมักกล่าวกันว่า ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นตะวันตก เขาทสึคุบะเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นตะวันออก และเนื่องจากสามารถมองเห็นภูเขาเป็นสีม่วงงดงามตามธรรมชาติทั้งตอนเช้าและตอนเย็น จึงมีอีกชื่อว่า “ภูเขาสีม่วง”
เขาสึกุบะมียอดเขาแฝดที่เป็นสัญลักษณ์ของอิบารากิ เรียกว่า เนียวไต (ยอดเขาผู้หญิง) และ นันไต (ยอดเขาผู้ชาย) ที่ความสูง 877 เมตร ยอดเขาเนียวไตซึ่งเป็นยอดเขาผู้หญิงจะสูงกว่า เขาทสึคุบะมีพืชพันธุ์และสัตว์ต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด! ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง จึงเหมาะเป็นสถานที่หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามได้ง่าย โดยใช้รถเคเบิลคาร์

ดูบทความเพิ่ม

ข้อมูล

Mt. Tsukuba Stardust Cruise

Mt. Tsukuba Stardust Cruise

ภูเขาทสึคุบะเป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น มองเห็นทัศนียภาพของท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือที่ราบคันโตที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้
ในฤดูหนาวตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม จะมีบริการโรปเวย์ (กระเช้าลอยฟ้า) พิเศษในช่วงกลางคืน ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองทสึคุบะและเมืองทสึจิอุระ รวมถึงโตเกียวสกายทรีและโตเกียวทาวเวอร์ด้วย

ดูบทความเพิ่ม

หากต้องการเพลิดเพลินกับทิวทัศน์งดงามของฤดูใบไม้ร่วง ขอแนะนำเส้นทางรถไฟสาย JR Suigun!

ในฤดูใบไม้ร่วง ยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตระการตาจากหน้าต่างรถไฟที่วิ่งในจังหวัดอิบารากิได้ด้วย

รถไฟที่แนะนำเป็นพิเศษคือรถไฟสาย JR ซุยกุน (JR Suigun) ซึ่งเชื่อมสถานี JR มิโตะ (JR Mito) กับจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นเส้นทางที่วิ่งผ่านพื้นที่ต่างๆ เช่น เมืองไดโกะ (Daigo) ที่มีน้ำตกฟุคุโรดะ สะพานแขวนริวจิน และเมืองฮิตาจิโอตะซึ่งเป็นแหล่งผลิตฮิตาจิอากิโซบะชื่อดัง ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งนา แม่น้ำ และป่าไม้ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีได้จากหน้าต่างรถไฟ เป็นการท่องเที่ยวทางรถไฟที่งดงามและแสนมีเสน่ห์